สัญญาหลัก มีหลายแบบ ,แต่ละแบบเรียกว่า "แบบประกัน"
แต่ละแบบประกัน เราสามารถเลือก "ทุนประกัน" ได้ตามความต้องการว่าให้คุ้มครองเท่าไร
ทุนประกัน = วงเงินที่จะชดเชยมูลค่าชีวิต /เงินคืน
1. แบบสะสมรัพย์ เน้นออมเงิน ซึ่งมีหลายแบบ แล้วแต่ว่า
จะแบ่งสัดส่วนของความคุ้มครองชีวิต กับ การเก็บออม ให้คืน เท่าไร
2. แบบตลอดชีพ เน้นเรื่องความคุ้มครองเป็นหลัก บางแบบอาจจะมีเงินคืนให้บ้าง
แล้วแต่ว่าจะเป็นสัดส่วนเท่าไร
3. แบบอื่นๆ ได้แก่แบบ บำนาจ แบบผสมอื่นๆ ฯลฯ
ปัจจุบัน มีการออกแบบประกันใหม่ๆมาเพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้นและ
เพื่อความอยู่รอดของบริษัทประกัน
อนุสัญญา หรือ สัญญาย่อย
เราสามารถซื้อเฉพาะส่วนของสัญญาหลักอย่างเดียวได้แต่ไม่สามารถซื้อสัญญาย่อยเดี่ยวๆได้
อบ.1 = อุบัติเหตุธรรมดา ซื้อได้ไม่เกิน 5 เท่าทุนประกัน, สำหรับแม่บ้าน พระ
นักเรียน เด็ก และผู้ไม่มีรายได้ประจำ
1. เสียชีวิต 100%
2. สูญเสียมือ เท้า สายตาทั้ง2 ข้างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งรวมกัน2อย่าง ขึ้นไป 100%
3. สูญเสียมือ เท้า สายตาอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงข้างเดียว 60%
4. สูญเสียหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือข้างเดียวกัน 25%
อบ.2 = อุบัติเหตุพิเศษ ซื้อได้ไม่เกิน 5เท่าทุนประกัน, สำหรับผู้มีรายได้ประจำ
1. เสียชีวิต 100%
2. สูญเสียมือ เท้า สายตาทั้ง2 ข้างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งรวมกัน2อย่าง ขึ้นไป 100%
3. สูญเสียมือ เท้า สายตาอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงข้างเดียว 60%
4. สูญเสียหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือข้างเดียวกัน 25%
5.ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรรับเงินเลี้ยงชีพรายปีไม่เกิน10 ปี ปีละ 10%
6. ค่าชดเชยการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในของโรงพยาบาลไม่เกิน 20 weekๆละ 0.3%
7. ประกอบอาชีพไม่ได้สิ้นเชิงชั่วระยะเวลาหนึ่งรับเงินทดแทนไม่เกิน 52weekๆ ละ 0.6%
8. ประกอบอาชีพไม่ได้บางส่วนรับเงินทดแทนไม่เกิน 52 weekละ 0.2%
*อุบัติเหตุทวีผล
รถไฟ รถโดยสารประจำทาง ลิฟท์ ไฟไหม้โรงมหรสพ โรงแรม อาคารสาธารณะ
ได้ความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2เท่า
อบ.3 = ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ (OPD,IPD) ซื้อได้สูงสุด วงเงิน 200,000
ทั้งนี้ขึ้นกับวงเงินสัญญาหลักที่มี
1.ได้รับบาดเจ็บจนต้องรับการรักษาจากแพทย์
2. รักษาในโรงพยาบาล หรือ คลีนิค
3. ต้องจ้างพยาบาลที่มีใบอนุญาตตามกฎหมายเพื่อให้การพยาบาล
บริษัทจ่ายชดเชยตามจ่ายจริง ไม่เกินวงเงินที่ซื้อไว้
สภ. = การประกันภัยสุขภาพ จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินที่ซื้อไว้,
ระยะเวลารอคอย 30 วัน
1. กรณีผู้เอาประกันเข้ารักษาตัวฐานะผู้ป่วยในหรือประสบอุบัติเหตุ
ค่าห้อง / ค่าห้องผ่าตัด / ค่าดูแลโดยแพทย์/ ค่าผ่าตัดตามที่จ่ายจริง/
ค่าใช้จ่ายทั่วไป/ ค่าวินิจฉัยโรคผู้ป่วยนอก/ ค่าวางยาสลบตามที่จ่ายจริง
2. กรณีผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุฐานะผู้ป่วยนอกฉุกเฉินของโรงพยาบาล (ภายใน 72
ชม ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ)
รพ(ปร)= ค่าชดเชยรายได้ต่อวัน (ระยะเวลารอคอย 30วัน)
1. ผู้เอาประกันบาดเจ็บ/ป่วยไข้ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
ในฐานะผู้ป่วยในบริษัทจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลรายวันไม่เกิน 1,250 วันต่อครั้ง
(ค่าชดเชยรายวัน)
2. การรักษาในห้อง ICU หรือรักษาเนื่องจากโรคร้ายแรง 4 โรค*จ่าย 2เท่า
ของผลประโยชน์ที่ซื้อ(สูงสุดไม่เกิน 365 วัน)
3. มีการผ่าตัดใหญ่หรือซับซ้อนจ่ายเพิ่มอีก 10 เท่า
ของผลประโยชน์ต่อวันที่ซื้อต่อครั้งของการผ่าตัด
4. ผ่าเปลี่ยนอวัยวะสำคัญคือ หัวใจ ปอด ตับ ไต หรือ เปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
จ่ายเพิ่มให้อีก 200 เท่า ของผลประโยชน์ต่อวันที่ซื้อ
* โรคหัวใจวาย(กล้ามเนื้อหัวใจตาย) / การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ /
อัมพาตจากหลอดเลือดเลี้ยงสมอง / มะเร็ง
รร. = คุ้มครองโรคร้ายแรงและมรณกรรม (คุ้มครองหลังจากอนุมัติในกรมธรรม์ 90 วัน)
1.ถ้าผู้เอาประกันได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
บริษัทจะจ่ายทุนประกันตามสัญญา รร.
2.ถ้าผู้เอาประกันเสียชีวิตเนื่องจากโรคภัย อุบัติเหตุ
หรือผลจากการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง บริษัทจะจ่ายทุนประกันตามสัญญา รร.
ทพ. = ทุพพลภาพ = ยกเว้นเบี้ยประกันกรณีทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร (แถมฟรี)
กรณีผู้เอาประกันทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงถาวรเนื่องจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย
บริษัทจะยกเว้นเบี้ยประกันชีวิต
ฉก. = เฉพาะกาล (ซื้อพ่วงในกรมธรรม์ของผู้เยาว์)
บริษัทจะจ่ายทุนประกันชีวิตเฉพาะกาลให้ทันทีกรณีตายในระยะเวลาประกัน
ฉป.= เฉพาะกาลผู้ปกครอง
บริษัทจะจ่ายทุนประกันชีวิตเฉพาะกาลให้ทันทีกรณีตายในระยะเวลาประกัน
คช. = คุ้มครองการชำระเบี้ย
บริษัทจะจ่ายเบี้ยประกันชีวิตทั้งหมดที่เหลือจนผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะ
มพ. = มีผลประโยชน์พิเศษ เป็นตัวที่ทำหน้าที่ เกี่ยวกับเรื่องเงินจ่ายคืนล้วนๆ
ไม่เกี่ยวกับ ชีวิตหรือ คุ้มครองอะไรทั้งสิ้น |