กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์(ภาคบังคับ)

เงื่อนไขความคุ้มครอง และข้อยกเว้นต่างๆ ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ)
- การหยุดใช้รถ
- การโอนรถ
- รถยนต์เช่าซื้อ
- การลด - เพิ่มเบี้ยประวัติ
- การบอกเลิกกรมธรรม์
- การระงับข้อพิพาท โดยอนุญาโตตุลาการ
- การจัดการ เรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย
- การแก้ไขสัญญา
- การสิ้นผลบังคับของกรมธรรม์



เงื่อนไขความคุ้มครอง ข้อยกเว้นต่างๆของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์(ภาคบังคับ)

เงื่อนไขความคุ้มครอง และข้อยกเว้นต่างๆ ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ)

การหยุดใช้รถ
ผู้เอาประกันภัย อาจแจ้งการหยุดใช้รถยนต์เพื่อขอรับเบี้ยประกันภัยคืนจากบริษัทผู้รับประกัน สามารถทำได้ คือ ต้องแจ้งล่วงหน้าเพื่อขอหยุดการใช้รถยนต์ ซึ่งบริษัทประกันภัยจะทำการคืนเบี้ยประกันภัยโดยคิดเฉลี่ยให้เป็นรายวัน
ข้อยกเว้นการคืนเงินเบี้ยประกันในกรณีที่ หยุดใช้รถยนต์ ในระหว่างการซ่อมรถ และหยุดการใช้งานที่น้อยกว่า 30 วัน

การโอนรถ
เมื่อผู้เอาประกันภัยรถยนต์ โอนรถยนต์ให้บุคคลอื่นให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ ประกันภัยนี้โดยอัตโนมัติ และบริษัทผู้รับประกันภัย
ต้องรับผิดชอบตามกรมธรรมธ์ประกันภัย ต่อไปตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังเหลืออยู่

กรณีที่เป็นการทำประกันภัยรถยนต์ประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ให้บริษัทประกันภัยทราบ เพื่อบริษัทจะได้ทำ การปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัย ตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลง

หากไม่แจ้งจะเกิดอะไรขึ้น?
ผู้เอาประกันภัยอาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรก ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ปรากฏในกรมธรรม์

รถยนต์เช่าซื้อ
การประกันภัยรถยนต์เช่าซื้อ ให้บริษัทผู้รับประกันภัยจัดทำกรมธรรม์ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันภัยแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น การยกผลประโยชน์ตามส่วนได้
เสียให้ผู้ เช่าซื้อ ให้บริษัทใช้เอกสารแนบท้าย

การลด - เพิ่มเบี้ยประวัติ
กรณีประวัติดี มีส่วนลดเบี้ยประกันภัย 4 ขั้น ขั้นละปีตามลำดับ คือ 20%-50%
หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในปีใดปีหนึ่งยังคงมีส่วนลดเบี้ยประวัติในกรณีที่ ผู้เอาประกันภัย ไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท ก็จะได้ส่วนลดเพิ่ม และในกรณีที่เป็นฝ่ายประมาท หรือไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ ส่วนลดจะน้อยลงไปเท่ากับปีที่ผ่านมา เช่นในปี นี้ควรจะได้รับส่วนลด 30% แต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท ส่วนลดที่ได้รับจะเหลือเพียง 20% แต่ถ้าเป็นฝ่ายประมาท หรือไม่สามารถแจ้งคู่ กรณีได้และมีการเรียกร้องค่าสินไหมตั้งแต่ 2 ครั้งขขึ้นไป และมีจำนวนเงินเกินกว่า 200% ของเบี้ยประกันภัยส่วนลดจะน้อยลงไปเท่ากับ 2 ปีที่ผ่านมา

เช่นปีนี้ควรจะได้รับส่วนลด 30% แต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท และมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 60,000 บาท ขณะที่ เบี้ยประกันภัย มีอัตรา 15,000 บาท ส่วนลดที่ได้รับก็จะไม่เหลือเลยต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ และถ้าเป็นกรณีที่ ประวัติไม่ดี มีส่วนเพิ่มเบี้ยประกันภัย 4 ขั้น ขั้นละปี ตามลำดับคือ 20% 30% 40% และ 50% เช่นกัน

การบอกเลิกกรมธรรม์
ผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัยสามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ ดังนี้
1. กรณีบริษัทบอกเลิก
ต้องส่ง หนังสือบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัยตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่ แจ้งให้บริษัททราบ และบริษัทคืน
เบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
2. กรณีผู้เอาประกันภัยบอกเลิก
ให้แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืนตามอัตราการคืนเบี้ยประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
3. กรณีเป็นการประกันภัยกลุ่มและมีการลด จำนวนรถยนต์ ให้คืนเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยรายวัน

การระงับข้อพิพาท โดยอนุญาโตตุลาการ
กรณีมีข้อพิพาท ข้อขัดแย้ง หรือ ข้อเรียกร้องใดๆ ระหว่างผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัทประกันภัย ให้ยุติข้อพิพาทนั้น โดยวิธีการอนุญาโตตุลาการ ตามข้อบังคับของกรมการประกันภัยว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ

การจัดการ เรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย
เมื่อเกิดความเสียหายหรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเกิดขึ้นผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ต้องแจ้ง ให้บริษัทผู้รับประกันภัยทราบโดยเร็ว และดำเนิน การอันจำเป็นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิเข้าดำเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ เกิดขึ้นได้ หากความเสียหายที่เกิดขึ้น นั้นอยู่ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ ความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ดำเนิน การโดยสุจริต

การแก้ไขสัญญา
สัญญาคุ้มครองและเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยเอกสารแนบท้ายของบริษัทผู้รับประกันภัยเท่านั้น

การสิ้นผลบังคับของกรมธรรม์ เกิดขึ้นได้ดังนี้
1. ตามวันเวลาที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์
2. ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัยภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่กรมธรรมเริ่มมีผลบังคับให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยไม่ประสงค์จะ เอาประกันภัย อีกต่อไป
3. มีการบอกเลิกกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันภัยหรือบริษัท

"อ่านสัญญาประกันภัย ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ประมาท และ ต้องมีสติตลอดเวลา"
หน้าแรก | ประกันวินาศภัย | ประกันชีวิต | การสั่งซื้อ | การชำระเงิน | สนับสนุน | สาระน่ารู้ | ผังเว็บไซต์ | ติดต่อเรา
Copyright © 2006 Cymiz.com., All rights reserved. Power by Cymiz.com
Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!