ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า (Trade Credit Insurance) คืออะไร

ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า (Trade Credit Insurance)  คือ อะไร

ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า คือ การประกันสำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ

ผู้ส่งออกสามารถใช้เครื่องมือป้องกันและบริหารความเสี่ยงของยอดหนี้สูญที่อาจจะเกิดขึ้นในการขายได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

ประกันภัยสินเชื่อทางการค้าให้ความคุ้มครองอย่างไร
ประกันภัยสินเชื่อทางการค้าให้ความคุ้มครองแก่ผู้ขาย หรือผู้ส่งออก (ผู้เอาประกันภัย) ในกรณีที่ส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อแล้วไม่ได้รับการชำระค่าสินค้าของตนจากผู้ซื้อ อันเป็นความเสี่ยงทางการค้า เช่น ผู้ซื้อล้ม

ละลาย, ผู้ซื้อปฏิเสธการชำระเงิน
ความเสี่ยงทางการเมือง เช่น การควบคุมการโอนเงิน การห้ามนำเข้าสินค้า
ซึ่งหากเกิดเหตุการณืดังกล่าวขึ้น บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าสินค้าที่ไม่ได้ รับชำระนั้นให้แก่ผู้เอาประกันภัย ตามที่ได้ทำประกันเอาไว้

การประกันภัยสินเชื่อทางการค้าแพร่หลายมากในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจในประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจจากการมี

หนี้สูญและมีความรู้ความเข้าใจประโยชน์ของการประกันภัยประเภทนี้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของการประกันภัยสินเชื่อทางการค้า
- เป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงในการเกิดหนี้สูญจากผู้เอาประกันภัยไปยังผู้รับประกันภัยและรองรับการตลาดและการแข่งขัน และด้านการเงินของการดำเนินธุรกิจของผู้ส่งออก
- เป็นการเพิ่ม ศักยภาพในการขยายตลาดในประเทศหรือภูมิภาคใหม่ ๆ ที่ผู้ส่งออกยังไม่เคยดำเนินธุรกิจด้วยมาก่อน นอกจากนี้ผู้ส่งออกยังสามารถขยายตลาดในประเทศที่มีการค้าขายอยู่แล้วให้มี ปริมาณ

มากขึ้นได้อีกด้วย เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้จัดหาและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยผู้ส่ง ออกกำหนดวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมในการค้าขายกับผู้ซื้อแต่ละราย ผู้ส่งออกอาจเปลี่ยนรูปแบบการรับชำระเงิน

จากผู้ซื้อให้มีความยืดหยุ่นและจูง ใจ เช่น การปรับเปลี่ยนจากระบบ L/C (Letter of Credit) ซึ่งผู้ซื้อในต่างประเทศต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงมาเป็นการค้าขายภายใต้ เงื่อนไขการชำระเงิน (Credit Term)

แบบต่าง ๆ เช่น
D/P (Documents againt Payment)
D/A (Documents againt Acceptance)
O/A (Open Account)
วิธีการเหล่านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนผู้ซื้อปลายทางได้ หรือการกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าสินค้าที่นานขึ้น หรือการเพิ่มวงเงินสินเชื่อสำหรับผู้ซื้อให้มากขึ้น

ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ส่งออกสามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับประเทศ ได้เป็นอย่างดี โดยทำให้การซื้อขายมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีปริมาณสูงขึ้นในที่สุด

ประโยชน์ อีกประการที่มีความสำคัญต่อผู้เอาประกันภัย คือ ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ไม่มีระบบจัดเก็บข้อมูลเครดิตของผู้ซื้อรายต่าง ๆ บริษัทประกันภัยจะให้บริการนี้แก่ผู้ส่งออกโดยการให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับ

ลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลของบริษัทประกันภัยเพื่อนำมาใช้ในการขยาย ตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งการให้ข้อมูลที่เป็นสัญญาณเตือนถึงหนี้สูญอันอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ระบบข้อมูลดังกล่าวนี้เหมาะ

สมและมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจข้าม ชาติ (Multi-Nation Company)

- ด้านการตลาดและการแข่งขัน
- ประโยชน์ต่อผู้ส่งออกด้านการเงิน โดยทำหน้าที่ช่วยบริหารสภาพคล่องกระแสเงินสดของบริษัทผู้เอาประกันภัย และช่วยลดอัตราการเกิดหนี้สูญซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลกำไรของธุรกิจ เมื่อมีประกันภัย

สินเชื่อทางการค้าแล้วผู้เอาประกันภัยสามารถลดภาระในการ ติดตามหนี้ทั้งในด้านเวลาและทรัพยากรบุคคลทำให้สามารถนำเวลาและบุคลากรไปใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนการเติบโตของบริษัทเพิ่มมากขึ้น เพราะการลดลงของหนี้สูญ ส่งผลให้บริษัทผู้เอาประกันภัยมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการลงทุนต่อไป
- ด้านการเงิน โดยการที่ผู้ส่งออก หรือผู้เอาประกันภัยจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้ได้ เนื่องจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มองเห็นถึงความเสี่ยงที่ลดลงจากการที่ผู้กู้ยืมมีการทำประกันภัยสิน

เชื่อทาง การค้าไว้

การที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการส่งออก ส่งผลให้มีผู้ส่งออกเพิ่มมากขึ้นทั้งรายเล็กและรายใหญ่ นับเป็นโอกาสที่ดีที่การประกันภัยสินเชื่อทางการค้าจะเริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทย และจากประโยชน์ดังได้

กล่าวมาข้างต้น การประกันภัยสินเชื่อทางการค้าจะสามารถสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่าง ราบรื่นยิ่งขึ้น