เงินค่าลดหย่อนภาษี ประกันชีวิต

เงินค่าลดหย่อนภาษี ประกันชีวิต

เงินค่าลดหย่อนภาษี ประกันชีวิต

ปัจจุบันรัฐบาลได้พยายามลดภาระทางภาษี ให้กับประชาชนผู้ทำงานสุจริตทั้งหลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และประเด็นที่เราจะนำมาเล่าสู่กันอ่านในวันนี้ก็เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง กฎหมายเกี่ยวกับภาษีในเรื่องของค่าลดหย่อนเงินประกันชีวิตซึ่งให้สิทธิ์ สำหรับผู้มีเงินได้และมีประกันชีวิตสามารถนำเงินค่าเบี้ยประกัน มาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ถึง 100,000 จากเดิม 50,000 บาท และก่อนหน้านั้นที่เคยได้รับสิทธิ์เพียง 10,000 บาทต่อปี แถมปัจจุบัน ยังลดหย่ิอนภาษีเพิ่มได้อีก 200,000 (ส่วนที่เพิ่มนั้น จากประกันชีวิตแบบบำนาญ) รวมเเล้ว เป็น 300,0000

การทำประกันชีวิตแบบบำนาญ จะทำให้ชีวิตหลังเกษียณของประชาชนดีขึ้น ลดภาระของรัฐบาล

มันอาจจะดูจิ๊บจ๊อย สำหรับตัวแทนนายหน้าซื้อขายหุ้นหรือพวกวาณิชธนกรมือทองทั้งหลายที่ปีนี้ตลาด หุ้นบ้านเราวิ่งกระฉูดจนทำให้มนุษย์ทำงานกลุ่มนี้มีสิทธิ์หยิบเงินล้านได้ โดยไม่ต้องไปรอคิวออกเกมโชว์ให้เมื่อยตุ้ม

เอาเถอะน่าผมว่ายังไง เราน่าลองหันมาพิจารณาดูจุดนี้สักนิดซึ่งอาจจะทำให้คุณมีเงินไปจัดงานเลี้ยง ฉลองปีใหม่ที่หรูหรามากขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยมากเท่าไร

จะว่ากันไปแล้ว นอกจากผลประโยชน์ทางภาษี การทำประกันชีวิตก็เป็นสิ่งที่บทเรียนของตำราการบริหารการเงินทุกเล่มยืนยัน อย่างหนักแน่นว่าเป็นสินค้าที่ทุกคนต้องซื้อ แต่ก็ภาวนาว่าขออย่าได้มีโอกาสใช้บริการมันเลย

ในฉบับก่อนๆ คอลัมภ์นี้ได้เปิดประเด็นของการพิจารณาการทำประกันชีวิตในหลายๆเรื่องไม่ว่า จะเป็นเรื่องของวงเงินประกันหรือชนิดของกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้นในฉบับนี้ ผมจึงอยากที่จะนำเสนอถึงประเด็นเรื่องการหาทางใช้ประโยชน์ค่าลดหย่อนภาษีจาก การทำประกันชีวิตกัน

http://www.finansa-asset.com/images/scan70.gifhttp://www.finansa-asset.com/images/scan71.gif

จากตัวอย่างที่นำเสนอ จะเห็นว่าเบี้ยประกันชีวิตซึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 50 , 000 บาทต่อปี เป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถลดภาษีที่จะต้องจ่ายชำระได่อย่างเป็นเรื่องเป็น ราวไฉนเลยที่เราจะละเลยไม่นำเอาของขวัญชิ้นนี้มาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่

เมื่อหลักฐานได้ ประจักษ์กับสายตาตัวเองแล้วว่าประกันชีวิตช่วยลดภาษีได้จริงสิ่งที่คุณควรจะ ต้องทำต่อไปก็คือการศ฿กษาหาความรู้ว่าประกันชนิดไหนเหมาะกับตัวคุณที่สุด ซึ่งเราก็ได้ลองทำการบ้านแทนคุณหาข้อมูลของประกันชีวิตจาก 6 บริษัทประกันที่มีมาร์เก็ตแชร์ในธุรกิจด้านนี้อยู่ในอันดับต้นๆ เพื่อเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆสำหรับการตัดสินใจของคุณอย่างไรก็ตาม หากคุณคิดที่จะตัดสินใจผูกสัมพันธ์กับบริษัทไหนหรือซื้อประกันประเภทใดคุณ ควรที่จะต้องศึกษารายละเอียดของบริษัทนั้นๆและประเภทของประกันชีวิตให้ดี เสียก่อน

หลายครั้งที่ผมเคย บอกกล่าวกันเอาไว้ในคอลัมน์นี้ว่า การทำประกันชีวิตกับการลงทุนเป็นคนละส่วนกัน การทำประกันชีวิตเหมือนกับการทำประกันรถยนต์ ผู้ที่สนใจในการทำประกันชีวิตควรจะมองถึงเงินทุนประกันที่ผู้รับผลประโยชน์ จะได้รับหรือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณหากเกิด เหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นกับคุณแทนที่จะไปสนใจในผลตอบแทนรายปีเป็นเปอร์เซนต์ ที่บริษัทประกันคำนวณและตั้งขึ้นมาเพื่อให้ตัวแทนประกันนำมาใช้เป็นเครื่อง หลอกล่อในการขายประกัน เชื่อผมเถอะครับหากคุณต้องการที่จะลงทุน คุณจะสามารถนำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่น่าจะดีกว่าที่บริษัท ประกันเสนอให้คุณ โดยอาศัยเครื่องมือในการลงทุนชนิดอื่นๆเช่น กองทุนรวม หรือการซื้อพันธบัตรอย่างค่อนข้างแน่นอน

แต่หลายคนคงมีข้อโต้ แย้งว่าเราจะได้อะไรจากการเสียเงินค่าเบี้ยประกันหากจะลองยกตัวอย่างตัวผม เอง ที่สมมุติว่าอายุอานาม 40 ปี ( สมมุติน้ะครับ สมมุติความจริงน้อยกว่านั้นเยอะ ) สุขภาพร่างกายแข็งแรงพอสมควรมีรายได้ 500 , 000 บาทต่อปี ซื้อประกันชีวิตที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน 50 , 000 ต่อปี ลองมาดูกันซิว่า ผมจะได้อะไรจากการเสียเงินจำนวนนี้

กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบกำหนดช่วงเวลา (Term Life) 20 ปี ซึ่ง จะครอบคลุมรับประกันการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภายในระยะเวลา 20 ปี โดยต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันเป็นจำนวนเงินที่เท่ากันทุกปีตลอดระยะเวลา 20 ปี แต่จะไม่ได้รับการจ่ายเงินปันผลใดๆ

กรมธรรม์ประกันชีวิตตลอดชีวิต (Whole Life) 20 ปี ซึ่ง ครอบคลุมการประกันชีวิตให้กับผู้ซื้อประกันตลอดชีวิตหรือจนกระทั่งผู้ซื้อ ประกันอายุ 90 ปี โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียง 20 ปี ยกตัวอย่างเช่นหากตอนนี้คุณอายุ 40 ปี คุณก็จะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันจนถึงอายุ 60 ปี แต่กรมธรรม์ฉบับนี้จะครอบคลุมรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมทดแทนจนถึงเวลาที่คุณ อายุ 90 ปี

ก็คงต้องบอกกันเอาไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งว่าประกันชีวิตประเภทที่ครอบคลุมตลอดชีวิต (Whole Life) จะมีค่าเบี้ยประกันแพงกว่าประกันชีวิตแบบที่กำหนดช่วงเวลา ( Term Life) แต่ก็มีข้อดีที่ครอบคลุมการจ่ายสินไหมทดแทนยาวนานกว่าเช่นกันซึ่งแบบไหนเป็น แบบที่คุณต้องการก็คงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลไป หากต้องการแบบที่วงเงินทดแทนสูงแต่ช่วงเวลาการประกันสั้นก็คงต้องเลือกแบบ ที่กำหนดช่วงเวลา แต่ถ้าหากต้องการการประกันยาวนานก็ต้องเลือกแบบตลอดชีวิต

นอกจากการซื้อความ คุ้มครองจากการประกันชีวิตแล้ว สิ่งต่างๆที่แนบติดมาด้วยก็คงจะเป็นการครอบคลุมการจ่ายค่าสินไหมทดแทนค่า รักษาพยาบาลการเจ็บป่วยต่างๆ ซึ่งคุณควรที่จะต้องสอบถามตัวแทนที่ขายประกันให้คุณอย่างละเอียดถึ่ถ้วน เพื่อป้องกันการโต้แย้งที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลัง

ข้อมูลที่น่าสนใจแถม ท้ายสำหรับการประกันชีวิตที่อยากจะบอกให้ทราบกันพอเป็นความรู้ก็คือ ค่าเบี้ยประกันชีวิตสำหรับผู้ชายจะสูงกว่าของผู้หญิงถึงเกือบสองเท่าแต่ค่า เบี้ยประกันการรักษาพยาบาลของเพศหญิงกลับแพงกว่าเพศชาย

อยากรจะรู้นักว่ามาตรฐานค่าเบี้ยประกันที่ว่านี้มาจากคำเปรียบเปรยที่ว่าผู้หญิงแก่เร็วแต่ตายช้าหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้

ที่มา finansa-asset.com

หมายเหตุ จากรูปที่เเสดง ใช้ การหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตที่ 50,000
ปัจจุบัน วงเงินที่จะหักลดหย่อนเบี้ยประกันจากการทำประกันชีวิต ได้เพิ่มขึ้นเเล้ว


ID=892,MSG=1012


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Friday เวลา 11:33:32am ซื้อประกัน 085-911-3737
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com