เทคโนโลยีนำมาใช้กับธุรกิจประกัน

เทคโนโลยีนำมาใช้กับธุรกิจประกัน

ข่าวการทดสอบเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบวัตถุระเบิด ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องสะสางกันต่อไป แต่ปัญหาความล้ำยุคของเทคโนโลยีในวันนี้ เริ่มเปิดช่องทางในการกระทำที่ค่อนข้างจะไม่สุจริต ได้อีกหลายประการ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับแจ้งจากทางบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ว่า มีตัวแทนของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ชำระเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทดังกล่าว ผ่านทางช่องทางของเว็บไซต์หนึ่ง

ซึ่งประกาศรับชำระ เงินทั้งค่าสาธารณูปโภคและเบี้ยประกันภัยของหลายๆ บริษัทประกันภัย ซึ่งมีทั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย โดย มีเรื่องของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นหนึ่ง ในจำนวนบริษัทที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นั้น แต่เมื่อตัวแทนท่านนั้นได้ชำระเบี้ยประกันภัยไปแล้ว ไม่ปรากฏว่า เว็บไซต์ดังกล่าวนำเงินไปชำระให้บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด แต่อย่างใด เรื่องมาเปิดเผยขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทวงถาม และในที่สุดต้องติดตามทวงถามกันให้วุ่นวาย กว่าจะติดตามเงินมาได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่ทันสมัย หากนำมาใช้ให้ถูกต้องก็สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้ ในธุรกิจประกันภัยปัจจุบันมีการนำ เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้กับการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัย ที่สามารถทำให้บริษัทประกันภัยสามารถได้รับข้อมูลการรับประกันภัยได้ในทันที ที่ตัวแทนหรือพนักงานรับประกันภัย และยังพัฒนาไป ถึงขั้นที่สามารถออกกรมธรรม์ให้กับผู้เอาประกันภัยได้ในขณะที่ทำ การรับประกันภัยด้วย ถ้าหากในอนาคตรูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัยสามารถพัฒนาภายใต้เงื่อนไขของ กฎหมาย ให้มีข้อความที่กระชับและรูปแบบกรมธรรม์ที่สามารถย่นย่อลงได้อีก

วิทยาการที่ทันสมัย อาจจะสามารถผลิตเครื่องมือออกกรมธรรม์แบบพกพา ที่ สามารถผลิตกรมธรรม์ได้ทุกสถานที่ และทุกเวลา เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนและผู้เอาประกันภัยได้อย่างทันท่วงที

ตอนนี้ ทั้งทางภาครัฐและเอกชนของธุรกิจประกันภัย กำลังโหมประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ไมโคร ที่เรียกว่า ไมโครอินชัวรันส์ ซึ่งมีทั้งการจัดสอบตัวแทนที่จะขอรับใบอนุญาตในการขายกรมธรรม์ประเภทนี้ โดยเรียนเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์) มาเป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา กับทั้งยังจะมีการพัฒนารูปแบบของกรมธรรม์ประเภทต่างๆ ให้ย่อส่วนในเรื่องของราคาเบี้ยประกันภัย เพื่อให้เข้าข่ายการประกันภัยไมโครอินชัวรันส์ ที่ถูกกำหนดไว้สำหรับ กรมธรรม์ประกันภัย ที่มีเบี้ยประกันภัยไม่เกิน 1,000 บาท ไว้ด้วย ผลสำเร็จจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไปนะครับ

ส่วนการพัฒนารูปแบบของไมโครอินชัวรันส์ ให้ขยายผลไปสู่การประกันภัยในภาพรวมด้วยการใช้วิทยาการสมัยใหม่มาช่วย เพื่อพัฒนาวิธีการออกกรมธรรม์ที่ทันสมัยดังที่กล่าวมาแล้วนั้น จะสำเร็จหรือไม่ก็คงต้องรอผลไปอีกเช่นกัน แต่อยากจะฝากไว้เพียงว่า การพัฒนาการรับประกันภัยด้วยวิธีการที่ทันสมัยให้ได้ความรวดเร็วนั้นมิใช่จะ มีประโยชน์เพียงแต่กับตัวแทนและผู้เอาประกันภัยเท่านั้นนะครับ บริษัทประกันภัยก็จะได้ผลประโยชน์มหาศาลจาก การนี้ เพราะข้อมูลการรับประกันภัยจะสามารถส่งตรงถึงบริษัทได้ทันที

อันจะทำให้การฉ้อฉลของเคลม และการคำนวณเบี้ยประกันภัยรับของบริษัทประกันภัยก็จะเป็นไปโดยถูกต้อง ผลที่ได้รับจึงรวมไปถึงเรื่องฐานะความมั่นคงของบริษัทอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมคิดว่า เทคโนโลยีที่จะทำเรื่องเช่นนี้ก็จะถูกนำมาพัฒนา และเร่ง ให้เกิดผลโดยเร็วก็จะดีนะครับ
 
ที่มา : สยามธุรกิจ