ประกันจ่ายสินไหมทดแทนต่างๆ รวมถึงการเสียรายได้ แต่กฏหมายไม่มีค่าทำขวัญครับ คุณต้องเอาค่าใช้จ่ายที่เกิด + รายได้ที่สูญเสีย เรียกกับประกันก่อน
ประกันจะจ่ายตามค่ารักษาจริง ประกันภัยชดใช้ตามค่ารักษาจริง และค่าขาดผลประโยชน์ที่พิสูจน์ได้ (ไม่ใช่ใครอยากได้เท่าไร แล้วประกันภัยต้องสนองให้ทั้งหมดทุกอย่าง บริษัทประกันภัย ทำธุรกิจ ไม่ใช่มูลนิธิ) เรื่องขาดรายได้ ทุพพลภาพ ประกันจะประเมิน ตามที่เราเรียกร้องไป ว่าสมเหตุผลไหม หากไม่พอใจ ก็เจรจา ถ้าตกลงกันไม่ได้ ฟ้องเรียกร้อง โดยยื่นฟ้องคนขับ กับบริษัทประกันเป็นจำเลยร่วม แล้วให้ศาลเป็นผู้พิจารณา เงินค่าทำขวัญ ไม่มีคำนี้ในกฏหมาย คนผิดจะจ่ายรึไม่ก็ได้
ค่าเสียหาย ที่เรียกได้ 1. ค่ารักษาพยาบาลทั้งในปัจจุบันและในอนาคต 2. ค่าขาดการงานในครัวเรือน ค่าขาดรายได้จากการทำมาหาได้ 3. ค่าเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงิน (หลายคนเรียกค่าทำขวัญ) 4. อื่นๆ เช่น ค่ายา ค่าปรึกษาหมอ คาทำกายภาพบำบัด ค่ารถ ค่าเช่ารถ ค่าจ้างคนมาดูแล หากตกลงกันไม่ได้ อาจจะคุยกับ คปภ ให้ช่วยเจรจา แต่หากเห็นว่า เสียเวลา ก็ให้ฟ้องคดี เพราะอายุความแค่ปีเดียว บางครั้ง มัวแต่ไป คปภ สุดท้ายก็ต้องไปฟ้องศาลอยู่ดี เพราะ คปภ ไม่มีสภาพบังคับ ก็เลือกทางที่พอเหมาะว่า ควรเป็นทางไหน และต้องมีกรอบเวลาชัดเจน ประเภทที่รับปากรับคำว่า ได้คำตอบวันนั้นวันนี้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ไม่เป็นไปตามนั้น อย่างนี้ ฟ้องได้ฟ้องไปเลย อย่าเสียเวาเด็ดขาด เพราะ ไม่รักษาคำพูด คนที่ไม่รักษาคำพูด ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้เเล้ว และไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้น อย่าไปคุย
สิทธิได้รับการรักษาจากประกันสังคม ไม่ตัดสิทธิอื่นที่ควรจะได้จากคู่กรณี แม้ว่าจะซ้ำซ้อนกันก็ตาม เพราะการรักษาจากประกันสังคม คือ การใช้สิทธิในส่วนของเรา ไม่ใช่ส่วนของคู่กรณี การมีหรือไม่มีประกันสังคม ไม่ทำให้ความรับผิดของคู่กรณีเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นคู่กรณีจึงต้องรับผิดแม้ว่าเราจะใช้สิทธิประกันสังคมแล้วก็ตาม (ตรงนี้ไม่แน่ใจ อาจเป็นการอ้างได้ว่า เบิกเคลมซ้ำซ้อนไม่ได้)
https://pantip.com/topic/35872167
โปรดรอ
cymiz.com insurance