“คปภ.” เตรียมหารือ “ก.ล.ต.-ธปท.” ออกประกันคุ้มครองแฮกเกอร์

“คปภ.” เตรียมหารือ “ก.ล.ต.-ธปท.” ออกประกันคุ้มครองแฮกเกอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยง

คปภ.กำหนดปี 60 เป็นปีแห่งการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยยุคดิจิตอล เพื่อรองรับการขายประกันผ่านออนไลน์สำหรับคนยุคใหม่ พร้อมหารือ “ก.ล.ต.-ธปท.” ออกประกันคุ้มครองแฮกเกอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้เสียหายทั้งบุคคล องค์กร และหุ่นยนต์ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
     
      สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูงเปิดเวทีระดมความเห็นในงานประชุมทางวิชาการด้านการประกันภัย ประจำปี 2559 : Thailand Insurance Symposium 2016 ภายใต้แนวคิด “ก้าวหน้า ก้าวไกล กับประกันภัยยุคดิจิทัล”
     
      นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวระหว่างเปิดการประชุมว่า ปัจจุบัน ระบบดิจิตอลกระจายไปอยู่ทุกระบบทั้งการกำกับดูแล การให้บริการผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ของผู้ประกอบการ การขายประกันผ่านระบบออนไลน์ จึงเตรียมเสนอร่างประกาศต่อคณะกรรมการ คปภ.วันที่ 23 ธันวาคม 2559 เพื่อควบคุมดูแลการขายประกันผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากระบบเทคโนโลยีเข้าถึงทุกส่วน เพื่อคุ้มครองผู้เอาประกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบ การกำหนดเงื่อนไขการรักษาฐานข้อมูลลูกค้า
     
      นอกจากนี้ รวมถึงการเคลมผ่านออนไลน์ เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการ และผู้เอาประกันอย่างเป็นธรรม หากกระทำความผิด โทษสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาต และหากมีความผิดมีโทษปรับ และจำคุกผ่าน พ.ร.บ.ประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ยอมรับว่า การขายประกันผ่านระบบออนไลน์เติบโตมากขึ้นในต่างประเทศ จึงน่าจะขยายตัวในไทยประมาณร้อยละ 30-40 ต่อปี

      ดังนั้น ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต จึงต้องปรับตัวรองรับแนวโน้มดังกล่าว อีกทั้งยังมองว่าในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ระบบฟินเทคเป็นการให้บริการขายประกันผ่านเทคโนโลยีจะสำคัญมาก เนื่องจากมีความสำคัญต่อนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จึงได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการซื้อประกันภัยป้องกันภัยจากแฮกเกอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้เสียหายทั้งบุคคล องค์กร รวมทั้งระบบหุ่นยนต์ได้ก้าวเข้ามาให้บริการผ่านระบบประกันมากขึ้น ดังนั้น ตัวแทนขายประกันต้องปรับตัวรองรับการแข่งขันระหว่างหุ่นยนต์กับตัวแทนขายประกัน
     
      อย่างไรก็ตาม บริษัทธุรกิจประกันภัย ประกันวินาศภัย เริ่มนำเทคโนโลยีมาปรับใช้อย่างมาก เช่น นาฬิกาติดตามสุขภาพ เพื่อประมวลสุขภาพร่างกายของผู้เอาประกัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นำระบบ IBM Watson มาใช้ประมวลผลด้านสุขภาพของผู้ป่วยในการรักษาโรคมะเร็ง และธุรกิจประกันชีวิตนำมาอ้างอิงข้อมูลของลูกค้า เมื่อดิจิตอลขยายก้าวไปในทุกด้านของธุรกิจประกันชีวิต ประกันวินาศภัย พัฒนาไปสู่การขายหลากหลายผลิตภัณฑ์ คปภ.จึงกำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ในยุค Insurance Digital Regulatoin ก้าวสู่ความท้าทาย ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบให้สอดคล้องกับกระแสโลกยุคใหม่ การออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การคุ้มครองขัอมูลลูกค้า การตรวจสอบทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
     
      นายคาเร้นซ์ หว่อง หัวหน้าทีเศรษฐศาสตร์ ภูมิภาคอาเซียน บริษัท สวิส รีอินชัวรันซ์ จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจอาเซียนขยายตัวร้อยละ 5 ตั้งแต่ปี 2543 (ค.ศ.2000) ขณะที่การใช้สินเชื่อดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และกลุ่มอาเซียน จัดทำงบประมาณขาดดุลทางการคลัง ยอมรับว่า เทคโนโลยีดิจิตอลกระทบต่อสังคม เป็นทั้งความเสี่ยง และโอกาสใหม่ๆ สำหรับการทำธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านทรัพยากร บุคลากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ เช่น UBER มีระบบขนส่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่มีรถยนต์เป็นทรัพย์สินของบริษัท Aribnb มีบริการด้านที่พักอาศัยโดยไม่ต้องลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยียุคใหม่จะเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
     
      ขณะที่กลุ่มอาเซียน มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อจีดีพีต่ำมาก แต่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โครงสร้างประชากรเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีความต้องการบริการด้านสุขภาพสูงขึ้น ขณะนี้บรรษัทข้ามชาติเริ่มเข้ามาขยายการลงทุนในไทยมากขึ้น