ประกันจ่าย สินไหมกรุณา

6 ค่ายซื้อใจรัฐควักหมื่นล้านซับน้ำตาเซ่น‘ก่อการร้าย’

ประกันยอมจ่าย “สินไหมกรุณา” ร้านค้า ย่อยเหยื่อเผาเมืองหลังถูกรัฐบาลหักคอทั้งที่จริงไม่ต้องจ่าย เพราะไม่ได้ซื้อประกันก่อการร้ายไว้ นายกสมาคมวินาศภัยเชื่อประกันไทยควักเองเกือบ 100% เหตุประกันต่อต่างประเทศรับทั่วโลกเลือกจ่ายไทย ที่เดียวไม่ได้ ชี้ตอนสึนามิจ่ายบ้างแต่ไม่หนักเท่านี้ แถม คลังเอาใจสุดฤทธิ์ไฟเขียวหักภาษีได้เดิมทำไม่ได้ ด้าน บิ๊กประกันระบุหลักการ “สินไหมกรุณา” คงไม่จ่ายเต็ม 100% สูงสุดแค่ 60% ไม่กระทบฐานะการเงินบริษัท คปภ.ให้พิจารณาเองตามเงินกองทุน

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ถึงมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยที่ ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองโดยรัฐบาลจะให้บริษัท ประกันภัยพิจารณาจ่ายเงินชดเชย “สินไหมกรุณาหรือสินไหมการุณ” ให้กับกลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่ทำประกันอัคคีภัยทุนประกันไม่เกิน 5 ล้านบาทที่ไม่ได้ซื้อความคุ้มครองประกันภัยก่อการร้ายไว้ ซึ่งหากยึดตามเงื่อนไขกรมธรรม์จะไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัย ว่า

บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายสินไหมทดแทนการุณได้โดยกระทรวงการคลังจะยอมให้ บริษัทประกันสามารถนำวงเงินที่จ่ายช่วยเหลือดังกล่าวไปหักลดหย่อนภาษีเงิน ได้ประจำปีได้จากเดิมไม่สามารถทำได้เพราะค่าใช้จ่ายที่จะนำไปหักภาษีได้ต้อง เป็นค่าสินไหมทดแทนที่ต้องจ่ายตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่เงินช่วยเหลือนี้อยู่นอกเงื่อนไข กรมธรรม์ อีกทั้งที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกัน ภัย (คปภ.) จะมีการตรวจสอบที่มาที่ไปของการจ่ายเงินอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว

“สินไหมกรุณาที่ว่าบริษัทประกันภัยของไทยคงต้องจ่ายเองเกือบทั้งหมด การที่จะเจรจาให้บริษัทรับประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ในต่างประเทศช่วยจ่ายให้คงเป็นไปได้ยากเนื่องจากรีอินชัวเรอส์รับประกันภัย ทั่วโลกถ้าจะให้ช่วยจ่ายก็ต้องจ่ายให้กับประเทศอื่นๆ ที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วยจ่ายแค่ไทยที่เดียวไม่ได้ถ้าเป็นแบบนั้นคงจ่ายไม่ ไหว เพียงแต่การจ่ายครั้งนี้ คปภ.ให้แต่ละบริษัทพิจารณาจากจำนวนผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหาย ความสามารถและฐานะการเงินของบริษัท ที่ผ่านมาเราแทบจะไม่เคยจ่ายสินไหมการุณตอนสึนามิอาจจะมีบ้างแต่ไม่เป็น รูปธรรมเท่านี้ถือเป็นการช่วยเหลือสังคม”

นายพุทธิพงษ์ ด่านบุญสุต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “สยาม ธุรกิจ” ว่า การจ่ายสินไหมการุณอุตสาหกรรม ประกันภัยทั่วโลกทำอยู่เป็นการผ่อนคลายความเคร่งครัดและโอกาสของบริษัท ประกันภัยที่จะปฏิเสธจ่ายสินไหมทดแทน โดยหลักการของสินไหมการุณจ่ายไม่ครบ 100% ของสินไหมทดแทนอยู่แล้วคงจ่ายได้ประมาณ 40-50% สูงสุดไม่เกิน 60%

“ยังบอกไม่ได้ผู้เอาประกันโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่ทำประกันไม่เกิน 5 ล้านบาทมีอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ ค่าเสียหายขนาดไหนแต่ละบริษัทคงต้องใช้เวลารวบรวม ข้อมูล ถามว่าจะกระทบกับฐานะการเงินของ บริษัทประกันหรือไม่คงไม่เพราะการพิจารณา จ่ายขึ้นอยู่กับความสามารถและฐานะการเงินของบริษัทต่างๆ”

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคปภ. กล่าวว่า เท่าที่มีการรายงานทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายทำ ทำประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินไว้กับบริษัทประกันภัย 30 บริษัทแต่มีการซื้อประกันภัยคุ้มครองภัยก่อการร้ายไว้เพียง 6 บริษัทอยู่ระหว่างการประเมิน ความเสียหาย ได้แก่ 1.ไทยเศรษฐกิจประกันภัยรับประกันบริษัทเซ็นทรัลพัฒนามูลค่า 3,500 ล้านบาทมีการประกันภัยต่อต่างประเทศ 2.บมจ.เทเวศประกันภัยรับประกันภัยห้างสรรพสินค้าเซนมูลค่า 3,300 ล้านบาท

3.บมจ.นวกิจประกันภัยรับประกันภัยบริษัท โรงแรมเพรสซิเดนซ์ และทาวเวอร์ จำกัด มูลค่า 200 ล้านบาท 4. บจ.สยามซิตี้ประกันภัยรับประกันภัยธนาคารนครหลวงไทยมูลค่า 60 ล้านบาท (5 ล้านบาท/สาขา) 5 บมจ.กรุงเทพประกันภัยรับประกันภัยธนาคารกรุงเทพและสาขาทั่วประเทศมูลค่า 200 ล้านบาท และ 6.บมจ.เมืองไทยรับประกันภัยธนาคารกสิกรไทย

สำหรับการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักมีการทำประกันภัยไว้กับ 2 บริษัทคือเทเวศประกันภัยรับประกัน เซ็นทรัลพัฒนา/ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์วงเงิน 6,147 ล้านบาทและบมจ.แอกซ่าประกันภัยรับประกันภัยรายย่อยในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์จำนวน 3 รายคือแฟชั่นสตูดิโอ มูลค่า 135 ล้านบาท ห้างจัสปาล มูลค่า 351 ล้านบาท ละเพียรเจริญจิวเวลรี่เฮ้าส์มูลค่า 120,000 บาท

ส่วนประกันชีวิตมีทำประกันไว้กับ 9 บริษัทรวมทั้งสิ้น 17 กรมธรรม์มูลค่าผลประโยชน์มรณกรรมรวม 2.3 ล้านบาท

ด้านนายชัย โสภณพนิช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัยทรัพย์สินไว้กับบริษัททั้งกรมธรรม์อัคคีภัย ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน และประกันภัยเบ็ดเตล็ด รวมทั้งสิ้น 53 ฉบับ ทุนประกันภัยรวม 5,000 บาท แต่มีเพียง 2 รายที่ทำประกันภัยก่อการร้ายไว้คือ ธนาคาร กรุงเทพ และ Lotus Express ค่าเสียหายรวมประมาณ 80-82 ล้านบาท

แบ่งเป็นค่าเสียหายของธนาคารกรุงเทพประมาณ 60 ล้านบาท และห้าง Lotus Express อีกประมาณ 22.32 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นค่าเสียหายที่บริษัทจ่ายเองประมาณ 6-7 ล้านบาท ที่เหลือบริษัทประกันต่อจ่ายส่วนใหญ่เป็นประกันต่อต่างประเทศเนื่องจากการ รับประกันภัยรายใหญ่ประมาณ 80-90% บริษัทจะประกันต่ออยู่แล้ว

นายพนัส ธีรวณิชย์กุล ผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า การจ่ายสินไหมกรุณาต้องรอดูแนวทางจากสมาคมประกันวินาศภัยก่อนจะพิจารณาช่วย เหลืออย่างไร ขณะที่แต่ละบริษัทต้องไปดูความเสียหายของลูกค้าที่รับประกันไว้ทั้งหมดมี มูลค่าเท่าไหร่เพราะทางคปภ.ให้นโยบายอยู่ในดุลพินิจและความสามารถของบริษัท ประกันภัยแต่ละแห่ง

สยามธุรกิจ