banner

ปกติคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานตามบ้าน
หากเป็นจอขนาด 15 หรือ 17 นิ้วในปัจจุบัน ความละเอียดของหน้าจอมักจะถูกกำหนดให้เป็น 1024x768 พิคเซล
หากเป็นสมัยก่อนจะเป็นขนาด 800x600 พิคเซล

โฆษณาบนเว็บไซต์ สมัยก่อน Banner ที่นิยมกัน แค่ขนาด 480x60 พิคเซล ได้แค่นี้ก็หรูแล้ว
นอกจากแบนเนอร์เล็กๆ 120x60 พิคเซล แบนเนอร์แลกลิงค์เล็กๆ หลายขนาด แถมการสร้างภาพเคลื่อนไหวยังไม่แพร่หลายเฉกเช่นตอนนี้

สมัยนี้ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Flash ย่อมทำให้โฆษณาบนเว็บไซต์เต็มไปด้วยความหลากหลาย เป็นสื่อประสมที่สามารถใส่ได้ทั้งภาพเคลื่อนไหว การเคลื่อนที่ของวัตถุ เสียงเพลงประกอบ แม้แต่คลิปวีดีโอก็ยังสามารถยัดเข้าไปได้

วิวัฒนาการแบนเนอร์โฆษณาก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน

ดแบนเนอร์โฆษณาขนาด 480x60 จะกลายเป็นเรื่องล้าสมัย เมื่อต้องเจอการกำหนดขนาดโฆษณาใหม่ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เรียกว่า Leaderboard ขนาด 728x90 พิคเซล ที่มักจะนำมาแสดงผลด้านบนสุดของเว็บไซต์ พบเห็นได้ทั่วไปตามเว็บไซต์ชั้นนำ ถือว่าเป็นการแทนที่แบนเนอร์ 480x60 พิคเซลได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

นอกจากนี้ ยังมีขนาดแบนเนอร์หน้าตาแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส Medium Rectangle ขนาด 300x250 พิคเซล ที่มักจะนำเสนอด้านข้าง โดยเฉพาะด้านขวาซึ่งเป็นด้านที่สายตาจะต้องอ่านเนื้อหา (Content) ไล่ตามตั้งแต่ด้านซ้ายถึงด้านขวา รวมไปถึงแบนเนอร์ประเภท Wide Skyscrapper 160x600 พิคเซล ที่มักจะเป็นผืนแบนเนอร์ยาว ตั้งอยู่บริเวณมุมขวาของเว็บไซต์ เข้ากันได้ดีกับหน้าจอขนาด 17 นิ้ว (1024x768 พิคเซล) ด้วยเหตุผลเดียวกับผู้ใช้แบบ Medium Rectangle เพียงแต่ต่างกันตรงที่ ลักษณะยาวและใหญ่

สำนักโฆษณาอินเตอร์แอคทีฟ (The Interactive Advertising Bureau : IAB) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 400 บริษัทโฆษณาและเทคโนโลยีชั้นนำ ที่รับผิดชอบการขายโฆษณาออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ค ได้กำหนดมาตรฐานโฆษณาเอาไว้ดังนี้

Rectangles and Pop-Ups แบนเนอร์จตุรัส และหน้าต่างป็อบอัพ
• 300 x 250 IMU - (Medium Rectangle)
• 250 x 250 IMU - (Square Pop-Up)
• 240 x 400 IMU - (Vertical Rectangle)
• 336 x 280 IMU - (Large Rectangle)
• 180 x 150 IMU - (Rectangle)
• 300x100 IMU - (3:1 Rectangle) *** ใหม่
• 720x300 IMU – (Pop-Under) *** ใหม่

Banners and Buttons แบนเนอร์และปุ่มต่างๆ
• 468 x 60 IMU - (Full Banner)
• 234 x 60 IMU - (Half Banner)
• 88 x 31 IMU - (Micro Bar)
• 120 x 90 IMU - (Button 1)
• 120 x 60 IMU - (Button 2)
• 120 x 240 IMU - (Vertical Banner)
• 125 x 125 IMU - (Square Button)
• 728 x 90 IMU - (Leaderboard) *** เป็นที่นิยม

Skyscrapers แบนเนอร์ลอยด้านข้าง
• 160 x 600 IMU - (Wide Skyscraper) *** เป็นที่นิยม
• 120 x 600 IMU - (Skyscraper)
• 300 x 600 IMU - (Half Page Ad)

โดยส่วนใหญ่มาตรฐานในการนำเสนอโฆษณาแบนเนอร์บนเว็บไซต์ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถปรากฎภาพโฆษณาได้เร็วขึ้น อันเป็นการสร้างการจดจำตัวสินค้าได้เร็ว ตามกระแสการบริโภคเว็บไซต์ที่เร่งรีบและฉาบฉวย
โดยแนะนำเวลาในการนำเสนอโฆษณาแบบอนิเมชั่น (เคลื่อนไหว) เอาไว้ไม่เกิน 15 วินาที และขนาดไฟล์ในการโหลดแบนเนอร์ไม่เกิน 30-40 kb. ต่ำสุด 10 kb. สำหรับแบนเนอร์ Micro Bar

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ความกว้างของแบนเนอร์โฆษณา ตามมาตรฐานมักจะไม่เกิน 728 พิคเซล ก็น่าสงสัยว่าทำไมไม่กำหนดให้เป็นทศนิยมหลักสิบ ปัดเศษให้เป็น 730 พิคเซลไปเลย เหตุผลก็คือ เพื่อรองรับหน้าเว็บไซต์เวลาสั่งพิมพ์ผ่านทางเครื่องพิมพ์ปริ้นท์เตอร์ (Printer) นั่นเอง เวลาพิมพ์ออกมาจะเห็นความกว้าง และความยาวของแบนเนอร์พอดีกับหน้ากระดาษ ไม่เกินจนขาดหายไป แต่บางครั้ง หลักการนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับบางเว็บไซต์ ที่มีการออกแบบโครงสร้างตารางแบบตายตัว เช่น กำหนดขนาดหน้าตา ความกว้างเอาไว้เป็น 1000 พิคเซล เพื่อให้เข้ากับหน้าจอขนาด 17 นิ้วพอดี
ถ้าเป็นเช่นนั้น ถึงสั่งพิมพ์กี่ครั้ง แบนเนอร์โฆษณาก็ขาดหาย แม้เจ้าของบางโฆษณามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เนื่องจากผู้ชมก็เห็นโฆษณาเคลื่อนไหวไปแล้ว คนที่สั่งพิมพ์หน้าเว็บมีโฆษณาแฝงถือเป็นผลพลอยได้เท่านั้น

สำหรับผู้ที่ดีไซน์หน้าเว็บไซต์เอง โดยที่ไม่ได้พึ่งพาโอเพ่นซอร์ช (Open Source) อย่าง Wordpress หรือ Joomla ผมเพิ่งค้นพบความรู้ใหม่ก็คือ ทำตารางที่เป็นโครงสร้างแยกส่วน
ส่วนที่เป็นแบนเนอร์โฆษณาแบบ Leaderboard ก็กำหนดโครงสร้างตารางเป็น 100% แทนที่จะกำหนดตายตัว ส่วนโครงสร้างหลักที่กำหนดความกว้างตายตัว เช่น 1,000 พิคเซล ก็แยกตารางออกมาต่างหากเป็นส่วนๆ เป็นชิ้นๆ ซึ่งก็ควรตั้งค่าตารางให้อยู่ตรงกลาง เพื่อให้รองรับผู้ใช้หน้าจอขนาดที่กว้างกว่า 17 นิ้วขึ้นไป