คปภ.แฉเล่ห์ตัวแทนแสบ เชิดเบี้ย10ล้าน

คปภ.แฉเล่ห์ตัวแทนแสบ เชิดเบี้ย10ล้าน
คปภ. ส่งคำเตือนถึงผู้ซื้อประกันหน้าใหม่ แนะขอใบเสร็จการจ่ายเงินประกันทุกครั้ง  หลังเริ่มมีตัวแทนเชิดเงินหนี ล่าสุดหลอกขายประกันลม มูลค่าหลังเหยื่ออ้างจ่ายเบี้ยให้ตัวแทนตามสัญญาแต่กลับอมเงินไม่ยอมส่งนานกว่า 8 ปี คาดเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พร้อมขู่บริษัทประกันชีวิต หากพบลูกค้าเสียหายจริง บริษัทต้องจ่ายตามกฎหมายทุกราย
สืบเนื่องจากกรณีที่ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต กับบริษัทประกันชีวิตรายหนึ่ง โดยถูกนายหน้าตัวแทนจากบริษัทดังกล่าวหลอกขายกรมธรรม์เกิดความเสียหายต่อราย ตั้งแต่ระดับหลักแสนไปถึงหลักล้านบาท โดยขณะนี้ผู้เสียหายอยู่ระหว่างรวบ รวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อเตรียมยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีความเสียหายเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งลูกค้าและบริษัท คาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
กรณีดังกล่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ประสานงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ก็ได้รับการชี้แจงถึงข้อร้องเรียนในพฤติกรรมของตัวแทนประกันชีวิต ว่า พฤติกรรมตัวแทนอาจเข้าข่ายหลอกลวง โดยเฉพาะกรณีไม่ส่งเงินประกันชีวิตเข้าไปยังบริษัท กินระยะเวลาเกือบ 10 ปี ขณะที่ลูกค้าได้จ่ายผ่านตัวแทนเป็นปกติ จึงสรุปได้ว่าตัวแทนดังกล่าวไม่ได้นำส่งจริง โดยผู้เสียหายได้เตรียมยื่นเรื่องไปยังสำนักงาน คปภ. พร้อมทยอยแจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง  และอื่นๆ แล้ว
"กระบวนการดังกล่าวจะเห็นว่าเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปี ก็อาจเป็นการยากเนื่องจากตัว พ.ร.บ. ประกันชีวิต ปี 2551 ที่ระบุให้บริษัทและตัวแทนร่วมรับผิดชอบความเสียหายแก่ผู้ซื้อประกันชีวิต แต่ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะคุ้มครองย้อนหลังไปไม่เกิน 10 ปี"

แหล่งข่าวจาก สำนักงาน คปภ. ยังกล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" อีกว่าปัญหาการให้บริการในธุรกิจประกันชีวิตที่ผ่านมามีการร้องเรียนถึงพฤติกรรมของตัวแทนบางบริษัท เข้าข่ายหลอกลวงลูกค้าและได้มีการร้องเรียนเข้ามายัง คปภ. อยู่บ้างแต่ไม่ถือว่าเกิดขึ้นบ่อยหรือจนผิดปกติ
ส่วนพฤติกรรมที่ได้ถูกร้องเรียน มักเป็นการหลอกขายแบบประกันชีวิตโดยไม่ส่งเข้าไปยังบริษัท ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์เกิดความเสียหาย เพราะได้ส่งเบี้ยประกันเป็นรายงวดต่อปี แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาคืนกรมธรรม์หรือจ่ายตอบแทนตามสัญญา ลูกค้ากลับไม่ได้รับการชำระทำให้สูญเสียสิทธิและเสียโอกาสในการคุ้มครองที่พึงได้

ทั้งนี้จากข้อมูลการร้องเรียนพฤติกรรมของตัวแทนประกันชีวิต (ทั้งระบบ) ที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิต 16 ล้านฉบับ พบว่าในปี 2554 มีการร้องเรียนในส่วนของพฤติกรรมตัวแทนขายประกันชีวิต รวม 238 เรื่อง โดย 6 เดือนแรกของปี 2555 มีการร้องเรียนเข้ามาแล้ว 64 เรื่อง

สำหรับเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 70% คือ การปฏิเสธ บอกล้างการชดใช้ของบริษัท อันเนื่องมาจากผู้เอาประกันปกปิดข้อเท็จจริง กรณีที่เกิดโรค รองลงมาคือ ถูกตัวแทนหลอกว่าซื้อประกันแล้วจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินกับธนาคาร คิดเป็น 14-15% สุดท้าย คือเรื่องตัวแทนรับเงินแล้วแต่ไม่นำส่งเงินแก่ทางบริษัท ส่งผลให้ผู้ถือกรมธรรม์ไม่ได้รับความคุ้มครอง

"ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งที่เข้ามาบั่นทอนความมั่นใจของผู้ซื้อประกันรายย่อยอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจประกันต่างจากธุรกิจอื่นที่ต้องอาศัยความมั่นใจ ไว้ใจ ที่สำคัญส่วนใหญ่คนที่ซื้อประกันกับตัวแทนมักรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดังนั้นหากเกิดกรณีดังกล่าวจึงอยากแนะนำให้นำหลักฐานที่ได้จากตัวแทนนำเข้ามาปรึกษาได้ที่ คปภ. ซึ่งสำนักงานมีหน่วยงานในช่องทางพิเศษที่ดูแลอยู่แล้ว" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
กรณีที่ถูกตัวแทนให้ข้อมูล แนะนำหรือขายประกันไม่ถูกต้องตามจริงแล้ว สามารถนำหลักฐานที่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อให้บริษัทประกันต้นสังกัดที่ซื้อเร่งชดใช้ตามรายละเอียดที่กำหนดไว้ภายใต้กรมธรรม์ อาทิ เอกสารหรือใบเสร็จการรับ-จ่ายเงิน แต่หากเป็นเอกสารที่ผ่านการปลอมแปลง เข้าข่ายการโกงของตัวแทนแล้วสามารถนำมาแสดงได้เพื่อให้เกิดความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. โดยกระบวนการหลักจากนั้น บริษัทประกันเองจะเป็นฝ่ายไล่บี้กับตัวแทนภายหลังและจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายรายแรก ที่ได้ร้องเรียนไปยังบริษัทประกันชีวิตต้นสังกัดของตัวแทนคนดังกล่าว ได้ออกมาระบุผ่าน "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้การดำเนินดังกล่าวยังไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือติดต่อกลับมาแต่อย่างใด  อย่างไรก็ดีหลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ร่วมกับผู้เสีย หายอีก 2-3 รายเพื่อฟ้องร้องและเรียกร้องทางแพ่งและพาณิชย์ต่อไป
"กรมธรรม์ ที่ทำไว้กับบริษัทประกันดังกล่าว มีด้วยกัน 12 ฉบับ กับรวมวงเงินความเสียหายเชิงประกันภัยกว่า 4 ล้านบาท อาทิ กรมธรรม์เงินฝาก ฆาตกรรม อุบัติเหตุ โรคมะเร็ง ทุนประกันสูงสุดถึงหลักแสนบาท โดยผู้เสียหายจ่ายเบี้ยเป็นรายปีต่อเนื่องนานกว่า 8 ปีแล้ว"
ขณะที่นางธิติยา จันทร์ดาลุน ผู้เสียหายอีกรายกล่าวว่า ได้ทำประกันเงินออม "ธนารักษ์12" รวม 3 ฉบับ เป็นเงินเกือบ 8 แสนบาท กับบริษัทประกันชีวิตรายดังกล่าว โดยสัญญาประกันชีวิตจ่ายเบี้ยครั้งเดียว พร้อมทั้งได้ลงทุนตามที่ตัวแทนแนะนำให้ลงทุนในส่วนของกองทุน (กองทุนลมที่ตัวแทนอ้างขึ้นมา) ซึ่งไม่มีอยู่จริงโดยได้ใช้ทองรูปพรรณ หนัก 4 บาท มูลค่า ณ ขณะนั้น 7.6 หมื่นบาท และเพิ่มเงินสดสมทบอีก 9.95 แสนบาท โดยอ้างว่าครบกำหนด 6 เดือนถึงเริ่มไถ่ถอนได้
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า การจ่ายเงินแต่ละครั้งผู้เสียหายจะไมได้รับใบเสร็จ ที่สำคัญคือตัวแทนคนนี้ไม่มีการมอบบัตรประจำตัวผู้ซื้อกรมธรรม์ให้แต่อย่างใด เมื่อสอบถามกลับไป ตัวแทนคนดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าเจ้าตัวจะเป็นฝ่ายเก็บรักษาหลักฐานใบเสร็จไว้เอง เพื่อป้องกันการสูญหายและเพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีการคืนเอกสารใดๆ และหลังจากนั้นก็ได้ไปร้องเรียนทางบริษัทประกันต้นสังกัดของตัวแทน แต่ก็ได้รับคำตอบว่าบริษัทไม่สามารถชดใช้ใดๆ เนื่องจากเป็นการกระทำของตัวแทน บริษัทไม่ทราบเรื่อง ขณะเดียวกันผู้เสียหายก็ไม่มีใบเสร็จหลักฐานยืนยัน เนื่องจากกรมธรรม์ ก็เป็นการปลอมแปลงขึ้นมา ส่วนการเข้าไปร้องเรียนที่คปภ. นั้น ล่าสุดรับทราบว่าทางคปภ.ได้ยกเลิกใบอนุญาตของตัวแทนประกันชีวิตรายดังกล่าวแล้ว
ส่วนชั้นพนักงานสอบสวน ล่าสุดพ.ต.ท. บุญนำ ลบโลกา พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า ได้รับคำร้องนี้ไว้เป็นคดีอาญา ข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง พร้อมทั้งขอกรมธรรม์ต้นฉบับเพื่อให้บริษัทประกันดังกล่าวเร่งตรวจสอบ โดยพบว่ากรมธรรม์ 2 ฉบับ เป็นการสวมเลขกรมธรรม์ของบุคคลรายอื่น และอีก 1 ฉบับเป็นการสร้างกรมธรรม์ปลอมโดยไม่มีอยู่ในสาระบบของบริษัทตั้งแต่ต้น หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตต้นสังกัดเข้าชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมามีการแจ้งความมายังสน.ราษฎร์บูรณะ ส่วนใหญ่เป็นการปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินในธุรกิจประกันชีวิต