การค้าขาย ด้วยแนวคิดของชาวยิว

ถ้าพูดถึงการค้าขาย คนไทยส่วนมากก็คงยกให้พี่จีนเป็นอันดับ 1 แต่เชื่อไหมชาวยิวรวยกว่าคนจีน ด้วยอาชีพค้าๆขายๆเหมือนกัน
ด้วยแนวความคิดที่สืบทอดมากว่า 3,000 ปี ไปดูแนวความคิดนี้กันครับ ผมไปอ่านเจอมาเห็นเป็นประโยชน์เลยอยากนำมาบอกต่อ

ชาวยิวนั้นขยันมาก สมองคิดเป็นเงินเป็นทองอยู่ตลอด และเห็นว่าเงินสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด เเละจะทำธุรกิจกับเงินสดเท่านั้น เเละชาวยิวสอนอีกว่า การเอาเวลากับเเรงงานไปเสียเพื่อให้เกิดเงินกลับมานั้น เป็นสิ่งที่คนยิวไม่ค่อยทำมากนัก เพราะเเรงกับเวลามีจำกัด  เเต่ให้เอา เวลากับเเรงไปบริหารคนเเล้วเกิดเงินกลับมา เเล้วก็สอนเรื่อง Passive in come & Active in come กันมา 3,000 ปีเเล้วด้วย

คนยิวหาเงินจาก คนรวย กับหาเงินจากผู้หญิง คนยิวไม่หาเงินจากตลาดล่างเพราะไม่ชอบทำสงครามราคา ทำไมต้องคนรวย เเล้วเป็นผู้หญิง เพราะผู้หญิงเป็นคนเก็บเงิน  ขณะที่ผู้ชายใช้เวลาเช้าถึงเย็นเพื่อหาเงินเเต่เงินกลับไปอยู่ในมือของผู้หญิง

เเละชาวจีน ที่มีมากมายอยู่ทั่วโลก มีประชากรมากกว่ายิวหลายเท่าตัว เเละขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตระกูลของการค้าขาย กลับรวยสู้คนยิวไม่ได้!!! เพราะคนจีนขายปัจจัย 4 สิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่คนยิวขายของให้ผู้หญิง เเละคนรวย และของที่หาซื้อไม่ได้ทั่วไป ของหายากราคาสูง ๆ ชาวยิวสอนว่าอย่าคิดเเต่จะเอากำไรเเต่น้อยเเล้วจะขายให้มาก เเต่จงกำไรให้มากจากการขายน้อย ๆ

คติประจำของชาวยิวก็คือ คนอยู่ที่ไหนธุรกิจอยู่ที่นั้น เเละไม่มีเขตห้ามค้า คือค้าขายได้ทุกที่ เเละอย่ารังเกียจการขาย

บางคนอาจจะคิดว่าการเห็นแก่เงินมากไปนั้น เหมือนคนเห็นแก่ตัว แต่เมื่อมีเงินแล้วเราก็สามารถเผื่อแผ่ช่วยคนยากไร้ได้ครับ อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือเปล่า
เป็นอีกมุมมองในการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านเรา