การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยเท่าไร? แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน* อายุผู้ขับขี่ ส่วนลด (%) ** รหัส 110 และรหัส 210 รหัส 610 อายุ 18 ถึง 24 ปี 5% 5% อายุ 25 ถึง 35 ปี 10% 10% อายุ 36 ถึง 50 ปี 15% 20% อายุเกิน 50 ปี 20% 15% หมายเหตุ 1. รถเก๋ง ใช้งานส่วนบุคคล (รหัส 110) : ให้ส่วนลดระบุชื่อได้เฉพาะรถยนต์ประเภทใช้งานส่วนบุคคล ดังนี้ 2. รถปิคอัพ หรือรถตู้ ใช้งานส่วนบุคคล (รหัส 210) 3. รถจักรยานยนต์ ใช้งานส่วนบุคคล (รหัส 610) * กรณีระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน การให้ส่วนลดจะคำนวณจากอายุผู้ขับขี่ที่ได้รับส่วนลดน้อยกว่า ** การคำนวณส่วนลดนี้ เป็นการให้ส่วนลดจากเบี้ยประกันภัยตามความคุ้มครองหลักเท่านั้น ส่วนลดจากการทำประกันภัยกลุ่ม จะได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยคันละ 10% โดยมีเงื่อนไข คือ ผู้เอาประกันภัยต้องเป็นเจ้าของเดียวกัน และทำประกันภัยพร้อมกัน 3 คันขึ้นไป ถ้าทำไม่พร้อมกันให้ส่วนลดเฉพาะคันที่ 3 และคันต่อ ๆ ไป บางครั้ง ส่วนลดจากประวัติเดิม ยังลดได้มากกว่าส่วนลดกลุ่ม เนื่องจากรถยนต์บางคันได้รับประวัติดีต่อเนื่องสูงสุดถึง 50% การนำรถยนต์ที่มีประวัติดีนั้นมาเข้ากลุ่ม ไม่ทำให้ได้ส่วนลดที่มากขึ้น แถมยังลดลงในบางกรณี จึงต้องคำนวณส่วนลดทั้งหมดและเปรียบกันก่อน ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี มีเงื่อนไขอย่างไร? หากผู้เอาประกันภัยขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่มีการเกิดเหตุใด ๆ หรือหากเกิดเหตุแต่เป็นฝ่ายถูกและแจ้งคู่กรณีให้บริษัทฯ ติดตามได้ผู้เอาประกันภัยจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี ดังนี้ 20% สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในการต่ออายุปีแรก 30% สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 2 ปี ติดต่อกัน 40% สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 3 ปี ติดต่อกัน 50% สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 4 ปี ติดต่อกัน หากปีใดมีการเคลม ส่วนลดในปีต่อไปจะไม่ได้รับเพิ่มขึ้น อาจจะเท่าเดิม หรือ ลดลง หรือไม่ได้ ขึ้นกับ ความเสียหายของเคลมนั้นมากน้อยเเค่ไหน การเพิ่มเบี้ยประกันภัย ประวัติไม่ดี มีเงื่อนไขอย่างไร? ในปีที่ทำประกันภัยหากผู้เอาประกันภัยขับรถเกิดเหตุเป็นฝ่ายประมาท หรือแจ้งคู่กรณีไม่ได้ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป และมีการเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทฯ เกิน 2 เท่าของเบี้ยประกันภัยของปีที่ทำประกันภัย ในปีต่ออายุจะถูกเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดีปี ดังนี้ 20% สำหรับรถยนต์ที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายในการต่ออายุปีแรก 30% สำหรับรถยนต์ที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 2 ปี ติดต่อกัน 40% สำหรับรถยนต์ที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 3 ปี ติดต่อกัน 50% สำหรับรถยนต์ที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัท 4 ปี ติดต่อกัน ถ้าผู้เอาประกันภัยขอรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก ( Deductible / Excess ) เองจะได้รับส่วนลดอัตราเบี้ยประกันภัยเท่าไร? ความเสียหายส่วนแรก ( Deductible / Excess ) หมายถึง จำนวนเงินส่วนแรกของความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยตกลงจะรับผิดชอบเอง เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งผู้ เอาประกันภัยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย ดังนี้ 1. ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความเสียหายต่อรถยนต์ คันเอาประกันภัย • 5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 100% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก • ส่วนเกิน 5,000 บาท ลดเบี้ยอีก 10% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก 2. ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความเสียหายต่อรถจักรยานยนต์ • 1,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 100% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก • ส่วนเกิน 1,000 บาท ลดเบี้ยอีก 20% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก 3. ความเสียหายส่วนแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก • 5,000 บาทแรก ลดเบี้ยประกันภัย 10% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก • ส่วนเกิน 5,000 บาท ลดเบี้ยอีก 1% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก มีกรณีใดบ้างที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรก (Deductible / Excess) ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกเอง ดังนี้ ประกันภัยประเภท 1 ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกต่อตัวรถยนต์ 1,000 บาท กรณีที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือควํ่า หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีได้ ประกันภัยประเภท 1, 2 และ 3 ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 2,000 บาท หากใช้รถยนต์นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ กรณีทำประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่แต่ขณะที่เกิดเหตุผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรกต่อความเสียหายตัวรถยนต์ 6,000 บาท และ ความเสียหายส่วนแรกต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 2,000 บาท ตามจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยสมัครใจรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรกเอง กรณีที่รถยนต์มีความเสียหายเกิดขึ้นแต่ยังไม่ได้ซ่อมจะสามารถทำประกันภัยได้หรือไม่? สามารถทำประกันภัยได้ แต่บริษัทประกันภัยจะพิจารณารับประกันโดยหมายเหตุความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนทำประกันภัยไว้ในกรมธรรม์ เมื่อรถยนต์เกิดเหตุตรงจุดที่ระบุในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าซ่อมร่วมกับบริษัทประกันภัย ทำประกันภัยประเภท 1 ให้ความคุ้มครองรวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์หรือไม่? บริษัทให้ความคุ้มครองโดยผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งให้ทราบโดยระบุลงในใบคำขอเอาประกันภัยว่ามีอุปกรณ์ตกแต่งอะไรบ้างในขณะขอทำประกันภัย การแจ้งทำประกันภัยรถยนต์ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? ต้องเตรียมเอกสารดังนี้ 1. สำเนาทะเบียนรถยนต์ 2. ใบเสร็จรับเงินค่าอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ (ถ้ามี) 3. หลักฐานการติดตั้งแก๊ส (กรณีติดตั้งแก๊ส) จำเป็นต้องใช้ กรณีสมัครประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ชั้น1 4. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้ขับขี่ (กรณีระบุชื่อผู้ขับขี่) โดยเเนวทางปฏิบัติแล้ว การสมัครทำประกันรถยนต์ ใช้เพียงเเค่ข้อมูลรถยนต์ และเอกสารหลักฐานการติดตั้งแก๊ส (กรณีติดตั้งแก๊ส) หากต้องระบุผู้ขับขี่ ต้องใช้บัตรประชาชน ของชื่อที่ต้องระบุด้วย และที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของ ตัวเเทน/นายหน้า
โปรดรอ
cymiz.com insurance