ช่องทางการขายประกันชีวิต ผ่านตัวเเทน ปี 2011 (ปี 2554) ส่วนแบ่งการตลาด 61%

สมาคมประกันชีวิตไทยเผยปี 2554 (ปี 2012) ขายประกันผ่านตัวแทนยังครองแชมป์สูงสุด 61%
สมาคมประกันชีวิตไทย เผยเบี้ยประกันชีวิตรับรวมในปี 2554 (ปี 2012) มีทั้งสิ้น 328,596.7 ล้านบาท
มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันจากปีก่อน 10.9%

โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 98,521.2 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 และ
เบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป 230,075.5 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6

โดยมีอัตราความคงอยู่ 86%  เป็นเบี้ยประกันชีวิตที่ขายผ่านช่องทางตัวแทนมากที่สุด 61.0%

ส่วนการขายผ่านช่องทางธนาคาร ตามมาเป็นลำดับที่ 2 มีสัดส่วน 32.5%

เบี้ยประกันชีวิตที่ขายผ่านช่องทางต่าง ๆ เมื่อสิ้นปี 54 การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 61.0 ของเบี้ยประกันชีวิตรับรวม (เติบโตขึ้นร้อยละ 7.4)  ขณะที่การขายผ่านธนาคารตามมาเป็นอันดับที่สอง มีสัดส่วนร้อยละ 32.5 (เติบโตขึ้น 17.8%)  การขายผ่านทางโทรศัพท์หรือไปรษณีย์  มีสัดส่วนร้อยละ 3.4  (เติบโตขึ้น 19.8%) และการขายผ่านช่องทางอื่นๆ มีสัดส่วนร้อยละ 3.1 (เติบโตขึ้นร้อยละ 5.7)

แต่หากพิจารณาถึงด้านการขยายงานโดยพิจารณาเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่  การขายผ่านธนาคารได้รับความนิยมสูงสุดโดยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 50.1 ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ (เติบโตลดลง 0.8%)  ขณะที่การขายผ่านตัวแทนมาเป็นอันดับสอง มีสัดส่วนร้อยละ 42.7 (เติบโตขึ้น 10.8%)  การขายผ่านทางโทรศัพท์หรือไปรษณีย์  มีสัดส่วนร้อยละ 3.5 (เติบโตขึ้นร้อยละ 26.7) และการขายผ่านช่องทางอื่นๆ มีสัดส่วนร้อยละ 3.8 (เติบโตขึ้นร้อยละ 9.9)

การพิจารณาข้อมูลสถิติของธุรกิจประกันชีวิต สมาคมได้แยกเป็นการเติบโตและขนาดของบริษัทประกันชีวิต โดยจะพิจารณาจากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม (Total Premium)  ซึ่งในปี 54 มีทั้งสิ้น 328,596.7 ล้านบาท ประกอบด้วยเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ 98,521.2 ล้านบาท รวมกับเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป 230,075.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนจำนวน 32,355.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.9 อัตราความคงอยู่ร้อยละ 86

บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุดหรือขนาดใหญ่สูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2554 คือ

อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 28.7
อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12.2
อันดับที่ 3 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 11.5
อันดับที่ 4 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 9.6
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 9.2
อันดับ 6  บจ.กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 6.4
อันดับ 7 บมจ.เอเอซีพีประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 6.3
อันดับ 8 บจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 4.0
อันดับ  9  บจ.ไอเอ็นจีประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 3.1
อันดับ 10 บจ.ธนชาตประกันชีวิต ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 2.2

บริษัทประกันชีวิตที่เหลืออีก 14 บริษัทส่วนแบ่งการตลาดรวมร้อยละ 6.7

============================================

แนวโน้มการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคาร หรือ banc assurance จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หลายๆบริษัทประกันชีวิต หันมาทำการตลาดช่องทางดังกล่าวมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด เเละเริ่มไม่เห็นความสำคัญของ การตลาดขายประกันโดยผ่านตัวเเทนประกันชีวิต เหมือนอย่างเมื่อก่อน

ดังจะเห็นได้จาก นโยบายบริษัทเหล่านั้น ไม่เอื้ออำนวยต่อ อาชีพตัวเเทนประกันชีวิต และ ตัวเเทนประกันชีวิตในสังกัด

โดยสังเกตุได้จาก การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ น้อยลง เเละ ห่างขึ้นเรื่อยๆ การจ่ายผลตอบเเทนจากแบบประกันลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างเมื่อก่อนขายประกันชีวิต1 รายเท่ากับ ปัจจุบันต้องขายประกันชีวิต 4-5 ราย สำหรับหลายๆแบบประกันที่อออกมาใหม่

รวมทั้งการจัด โปรโมชั่นต่างๆ ที่ลดลง ทั้งนี้บางบริษัท หันไปพัฒนางานสายงานทางธนาคาร
ส่วนหนึ่งเนื่องจาก เป็นช่องทางที่ใหม่เเละมีฐานลูกค้ามหาศาล ซึ่งก็คือ ลูกค้าของธนาคารเอง
รวมถึงการ บริหารจัดการที่ง่ายกว่า

อย่างไรก็ตาม ก็มีอีกหลายบริษัท ยังคงให้ความสำคัญกับตัวเเทนขายประกันในสังกัดอยู่
โดยเชื่อว่า การขายประกันนั้น จำเป็นต้องอาศัยความสัมพันธ์ การดูเเล การบริการ
ซึ่งเหล่านี้ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย

คงต้องดูกันต่อไป ในระยะยาว ว่า ช่องทางไหน จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้
เเต่กว่าจะถึงวันนั้น .....