ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและกลุ่ม

ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและกลุ่ม
คุ้มครองต่อผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุได้รับความบาดเจ็บทางร่างกายและหากผลของการบาดเจ็บนั้นส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษา
พยาบาล หรือรุนแรงถึงขั้นทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต บริษัทประกันภัยจะเข้ามารับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลหรือจ่ายค่าทดแทนให้หาก
ต้องสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต

แบบของกรมธรรม์ แบ่งออกเป็น 3 กรมธรรม์ คือ
  กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ใช้สำหรับการประกันภัยเฉพาะบุคคลคนเดียวเท่านั้น
  กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ใช้สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีการรวมตัวกันไว้ก่อนแล้ว เช่น กลุ่มพนักงานของบริษัท DOI จำกัด กลุ่มข้าราชการของกรมการประกันภัย เป็นต้น มิใช่กลุ่มที่รวมตัวกันขึ้นเพื่อทำการประกันภัยเท่านั้น
  กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เป็นการทำประกันภัยกลุ่มโดยที่สถาบันการศึกษาเป็นผู้จัดทำให้แก่นักเรียน นักศึกษาในสังกัด

แบบความคุ้มครอง
กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและอุบัติเหตุกลุ่ม จะมีแบบให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ อบ.1 และ แบบ อบ. 2 ซึ่งแบบ อบ. 1 จะให้ความคุ้มครองน้อยกว่าแบบ
อบ. 2 กล่าวคือ
  แบบที่ 1. แบบ อบ. 1 จะมีความคุ้มครองให้เลือกซื้อ 4 ความคุ้มครอง ได้แก่
  การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ/สายตา การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
  การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง
  การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน
  การรักษาพยาบาล
แบบที่ 2. แบบ อบ.2 ให้ความคุ้มครองเพิ่มจาก อบ. 1 คือ
  การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียการรับฟังเสียง/การพูดออกเสียง และการทุพพลภาพถาวรบางส่วน สำหรับในกรมธรรม์ ประกันภัยสำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษานั้น
  จะมีเฉพาะแบบ อบ. 1 เท่านั้น การประกันอุบัติเหตุ โดยปกติแล้วจะให้ความคุ้มครองรวมถึงการถูกฆ่า หรือ ถูกทำร้ายร่างกายด้วย ไม่ว่าการถูกฆ่าหรือถูกทำร้ายร่างกาย
  จะเป็นโดยเจตนา หรือไม่ก็ตาม

ข้อยกเว้น
  ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ที่จะไม่คุ้มครองในเหตุการณ์บางอย่าง อาทิ เช่น การกระทำของผู้เอาประกันภัยขณะอยู่ ภายใต้ฤทธิ์สุรา หรือยาเสพติด การฆ่าตัวตาย พยายาม
  ฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง การแท้งลูก สงคราม การปฏิบัติ การกบฎ การจลาจล การนัดหยุดงาน การที่ประชาชนก่อความวุ่นวายลุกฮือต่อต้านรัฐบาล
  การแผ่รังสีหรือกัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ อาวุธนิวเคลียร์ การเล่นหรือแข่งกีฬาอันตราย ขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ขณะที่โดยสารอยู่ใน
  เครื่องบินที่มิใช่สายการบินพาณิชย์ เช่น เฮลิคอปเตอร์ ขณะที่เข้าร่วมการทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม หรือหลบหนีการจับกุม เป็นต้น

การซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม
  หากผู้เอาประกันภัยต้องการให้ได้รับความคุ้มครองในเหตุการณ์ที่ระบุไว้ในข้อยกเว้น ก็สามารถที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัย เพิ่มเติมเพื่อขอขยายความคุ้มครองได้
  โดยสามารถทำได้เพียง 5 กรณี เท่านั้น คือ
  การขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์
  การจลาจล การนัดหยุดงาน
  การสงคราม
  การเล่นหรือแข่งกีฬาอันตราย
  การโดยสารอากาศยานที่มิได้ประกอบการโดยสายการบินพาณิชย์

ปัจจัยกำหนดค่าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุ
กลุ่มคน การทำประกันภัยแบบกลุ่มจะถูกกว่าการทำประกันภัยรายบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากกลุ่มคนมีจำนวนมากเบี้ยประกันภัยก็จะยิ่งต่ำลง
อาชีพ การแบ่งชั้นอาชีพเป็น 4 ชั้น คือ
  ชั้น 1 งานประจำในสำนักงาน
  ชั้น 2 งานที่ใช้วิชาชีพที่ต้องทำงานกลางแจ้งตลอดเวลา
  ชั้น 3 งานด้านช่าง ใช้เครื่องจักรกลหนัก ผู้ใช้แรงงาน การเดินทาง งานนอกสำนักงานเป็นประจำ
  ชั้น 4 อาชีพพิเศษที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าชั้นอื่น ๆ เป็นพิเศษ เช่น นักแสดงผาดโผน สำหรับอาชีพดังกล่าว
  ชั้น 1 ความเสี่ยงภัยต่ำที่สุด ชั้น 4 ความเสี่ยงภัยสูงที่สุด

อายุ คนที่อายุเกินกว่า 60 ปี เบี้ยประกันภัยจะสูงกว่าคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี

การกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัย
เบี้ยประกันภัยจะผันแปรตามจำนวนเงินเอาประกันภัยด้วย ดังนั้น ในกรณีการซื้อผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล ต้องกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัย ให้เหมาะสม
หากซื้อไว้มากเกินความจำเป็นก็จะเป็นการจ่ายเบี้ยประกันภัยโดยไม่จำเป็น

มาตราฐานกรมธรรม์ และหลักการในการพิจารณา
  กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกบริษัท แต่ทั้งนี้ อัตราเบี้ยประกันภัยที่บริษัทใช้มีความแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่ต้องการซื้อประกันภัย ต้อง
พิจารณาในด้านต่าง ๆ ดังนี้
  พิจารณาแบบความคุ้มครองระหว่าง แบบ อบ. 1 และ อบ. 2 ให้เหมาะสมกับความต้องการและอาชีพ
  พิจารณาความต้องการของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนเงินที่จะเอาประกันภัย ต้องเหมาะสมกับรายได้ (ประมาณ 10 เท่าของรายได้ต่อปี)
  พิจารณาเบี้ยประกันภัยระหว่างบริษัทประกันภัยต่าง ๆ และเปรียบเทียบกันหลาย ๆ บริษัท
  พิจารณาฐานะของบริษัทประกันภัย / และวิธีการดำเนินงานของบริษัท