สาระของการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

สาระของการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
 
เป็นการประกันภัยรถที่กฎหมายไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เอาประกันภัยที่เห็นถึงความเสี่ยงภัยแห่งตน และมีความคิดที่จะกระจายความเสี่ยงภัยออกไปยังบุคคลอื่น กล่าวคือการประกันภัยไว้กับบริษัทซึ่งสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองตามประเภทที่ผู้เอาประกันภัยประสงค์ โดยบริษัทประกันภัยจะออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งมีความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นตามแบบที่นายทะเบียนให้ความเห็นชอบ 

ประเภทของการประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
 
การประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่
คุ้มครองความรับผิด และความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดในระหว่างการใช้หรือการขับขี่ของบุคคลใดๆ ก็ตามที่ใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้ภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อยกเว้น ที่ปรากฏในกรมธรรม์ประกันภัย
 
การประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่
คุ้มครองความรับผิด หรือความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีบุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์เป็นผู้ขับขี่ โดยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 2 คน
กรณีที่ระบุ 2 คนนั้น การคิดคำนวณเบี้ยประกันภัย จะใช้ผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นฐานในการคำนวณเบี้ยประกันภัย ซึ่งปัจจัยที่ใช้เป็นตัวกำหนดความเสี่ยงคือ อายุของผู้ขับขี่ โดยแบ่งช่วงอายุของผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงภัยน้อยไปยังความเสี่ยงภัยมากเป็น 4 ช่วงอายุ คือ
 
  - อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป
  - อายุ 36-50 ปี
  - อายุ 25-35 ปี
  - อายุ 18-24 ปี

สำหรับรถยนต์ที่ผู้เอาประกันภัยจะนำมาทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ได้นั้น จะต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้เป็นส่วนบุคคลเท่านั้น จึงจำกัดไว้เพียง 3 ประเภทเท่านั้น
คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล , รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล

ประเภทความคุ้มครอง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

ความคุ้มครองหลัก
ความคุ้มครองเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้าย

ความคุ้มครองหลัก
ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก แบ่งเป็น
  ความสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก ( Third Party Bodily Injury : TPBI) หมายถึง บุคคลภายนอกที่อยู่นอกรถยนต์คันเอาประกันภัยและบุคคล
ภายนอกที่โดยสารอยู่ใน หรือ กำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์คันเอาประกันภัย และจะคุ้มครองเฉพาะจำนวนเงินค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด
ตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ(พรบ.) ซึ่งบุคคลภายนอกในที่นี้ไม่รวมถึง

•  ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เอาประกันภัย
•  คู่สมรส บิดา มารดา บุตร ลูกจ้าง ในทางการที่จ้างของผู้ขับขี่นั้น

ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage : TPPD) บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของ
บุคคลภายนอกตามความ เสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ยกเว้น ความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

•  ทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันภัย ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ คู่สมรส บิดามารดา บุตรของผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่เป็นเจ้าของ หรือเป็น
ผู้เก็บรักษา ควบคุม ครอบครอง
 
•  เครื่องชั่ง สะพานรถ สะพานรถไฟ ถนน ทางวิ่ง ทางเดิน สนาม หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยู่ใต้สิ่งดังกล่าวอันเกิดจากการสั่นสะเทือน หรือจากน้ำหนักรถยนต์ หรือ
น้ำหนักบรรทุกของรถยนต์
 
•  ทรัพย์สินที่บรรทุกอยู่ใน หรือกำลังยกขึ้น หรือกำลังยกลงจากรถยนต์
  ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการรั่วไหลของสารเคมีหรือวัตถุอันตรายที่บรรทุกอยู่ในรถยนต์ เว้นแต่การรั่วไหลนั้นเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์  หรือการรั่วไหล
ของแก๊สหรือเชื้อเพลิงเพื่อการเดินเครื่องของรถยนต์

ความเสียหายส่วนแรก
  ในกรณีที่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุและก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอกหากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความ
รับผิดตามกฎหมายของผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัย แต่ผู้ขับขี่ไม่ใช่ผู้ขับขี่ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แล้ว บริษัทยังคงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเต็มจำนวนแต่บริษัท
สามารถเรียกจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก ที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองคืนจากผู้เอาประกันภัยได้ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 2,000 บาท และได้มี
การตัดข้อยกเว้นเรื่องใบอนุญาตขับขี่ออก ดังนั้นแม้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่จะไม่เคยมีใบอนุญาตขับขี่ บริษัทก็ยังคงต้องรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกเต็มจำนวน และจะเรียกจำนวนเงินที่ตนได้จ่ายไปคืนจากผู้เอาประกันภัยในภายหลังไม่ได้ด้วย

ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (Own Damage)
บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง
หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์มาตรฐาน ที่ติดตั้งมากับรถยนต์ โดยโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่งที่ทำเพิ่มขึ้น โดยแจ้ง
ให้บริษัทฯ ทราบแล้ว แต่ทั้งนี้ ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้

ไฟไหม้ ในที่นี้ หมายถึง ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เป็นผลมาจากไฟไหม้ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเองหรือเป็นการไหม้ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่น
  ในกรณีการทำประกันประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำหรือมีการชนเกิดขึ้น ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย ขณะที่มีบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้ที่ระบุไว้ใน
กรมธรรม์ บริษัทยังคงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเต็มจำนวน แต่บริษัทสามารถเรียกจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองคืนจากผู้เอา

ประกันภัยได้ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 6,000 บาท
และในกรณีเกิดเหตุแล้วผู้เอาประกันไม่สามารถแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ บริษัทยังคงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเต็มจำนวน แต่บริษัทสามารถ
เรียกจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง คืนจากผู้เอาประกันภัยได้ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 1,000 บาท

ความคุ้มรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ (Fire & Theft) กรณีรถยนต์ สูญหาย บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์
เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่ กับตัวรถยนต์ ตามมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์ โดยโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ และให้รวมถึงอุปกรณ์เครื่อง
ตกแต่งที่ได้ทำเพิ่มขึ้น และผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบนั้น สูญหาย อันเกิดจากการกระทำความผิดเฉพาะฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์

หรือเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ อันเกิดจากการกระทำความผิดหรือการพยายามกระทำความผิดดังกล่าว
  กรณีรถยนต์ ไฟไหม้ บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ ที่เป็น
ผลสืบเนื่อง มาจากสาเหตุใดๆ ก็ตาม

ความคุ้มครองเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้าย เป็นความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยอาจเลือกซื้อความ คุ้มครองเพิ่มเติมได้อีก คือ การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร หรือทุพพลภาพชั่วคราว

การประกันภัยค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าโรงพยาบาล ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินจำกัด ความรับผิดของบริษัทที่ระบุไว้

การประกันตัวผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้นถูกควบคุมตัวไว้ในคดีอาญา ไม่ว่าจะเป็นการ ควบคุมในชั้นพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล
(จนถึงศาลฎีกา) บริษัทจะต้องทำการประกันตัวผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้นโดยไม่ชักช้า ในวงเงินไม่เกินจำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้