ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

http://upic.me/i/qv/1dmww.png

มีการร้องเรียนการถูกเอาเปรียบจากบริษัทประกันชีวิตเข้ามาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 6 ราย
บางรายไม่สามารถเจรจากันได้ จนต้องฟ้องร้องต่อศาลไป

แต่ยังไม่พบว่าทางบริษัทแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือการแก้สัญญาให้เป็นไปตามที่มีการโฆษณา

“ตามหลักเกณฑ์ของ คปภ. ระบุไว้อย่างชัดเจนให้ว่าถ้าคุณโฆษณาว่าไม่ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกันชีวิตคุณ ก็ต้องระบุหลักเกณฑ์นี้ไว้ในกรมธรรม์ด้วย

เมื่อประมาณปี 2556 เกิดเหตุผู้สูงอายุรายหนึ่งซึ่งทำประกันอุบัติเหตุ ผ่านตัวแทนขายประกันของบริษัทประกันชีวิตเอกชนแห่งหนึ่ง

ซึ่งก่อนทำประกันนั้น ผู้ทำประกันได้สอบถามกับตัวแทนฯแล้วว่าจำเป็นต้องตรวจสุขภาพหรือไม่

ซึ่งทางตัวแทนขายฯ ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อน สามารถทำประกันได้เลย แต่ต่อมา
ผู้สูงอายุคนดังกล่าวเกิดสะดุดขาตัวเองล้ม และเสียชีวิต แพทย์วินิจฉัยว่าการล้มกระแทกทำให้กระดูกคอหัก กระทบกับภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เมื่อมีการเคลมประกันแล้ว

***ทางบริษัทไม่ยอมจ่ายให้ โดยอ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้เพราะโรคประจำตัวของผู้ป่วยเอง(เลวไหม?)
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/343781

ความเห็นส่วนตัวคือ ทำไมโฆษณา กับตัวสัญญาถึงไม่ตรงกัน = เข้าข่ายหลอกลวง หรือไม่?


“ไม่ต้องตรวจสุขภาพ... ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ เบี้ยประกันเพียงวันละ...บาท” ก่อนกระชากความรู้สึกด้วยคำพูด “ทำเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน!” ทั้งหมดนี้คือข้อความเชิญชวนยอดฮิตของบริษัทประกันในปัจจุบัน ที่ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากตัดสินใจทำประกันผู้สูงอายุ หากเบื้องหลังถ้อยคำเหล่านั้นมีความจริงอยู่สักเท่าไร
     
        ล่าสุดทาง ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ มพบ. เป็นจำนวนมาก ว่าบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายสินไหมทดแทน ทั้งไม่สามารถเคลมประกันได้เมื่อถึงเวลาเข้าโรง พยาบาล ซ้ำบางรายยังถูกยกเลิกสัญญา ด้วยเหตุผลที่บริษัทประกันให้ว่า ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวมาก่อนที่จะทำประกัน?

http://upic.me/i/bz/558000009999001.jpeg

ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ข้อแม้เพียบ
        “จริงครับ ทำง่าย สมัครง่าย จ่ายค่าเบี้ยง่าย ... แต่ตอนเคลมยากมาก ถึงมากที่สุด ... เพราะท้ายที่สุดในโฆษณามีข้อความตัวเล็กๆ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์”
     
        “สงสารแต่คนแก่ๆ ครับ รู้อยู่แล้วว่าคนแก่เค้ากลัวง่าย ชอบเป็นกังวลก็ไปเล่นกับความกลัวของคนบอก ทำเถอะครับจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลานเมื่อวันนั้นมาถึง… ถามหน่อยถ้าเกิดคนจะตายขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นภาระอะไรมากเลยนี่นั่นน่ะถือว่าหมดภาระหมดกังวลทางโลกแล้ว”
      เหล่านี้คือข้อความที่ปรากฏในกระทู้หนึ่งของ pantip ที่มีคนมาร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีประกันผู้สูงอายุ
      เกี่ยวกับประเด็นนี้ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ในรอบเดือน กย.57- กพ.58 มีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ มพบ. เป็นจำนวนมาก มีทั้งปัญหาการจ่ายผลตอบแทนเมื่อครบสัญญาไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ ตัวแทนชี้ชวนให้ผู้ทำประกันกู้เงินตามสิทธิ เช่น ตัวแทนหลอกให้ผู้ทำประกันเซ็นเอกสารกู้ยืม โดยตัวแทนเป็นฝ่ายดำเนินการ บริษัทประกันบอกเลิกสัญญา แต่ผู้ทำประกันยังต้องทำต่อเนื่องตามเงื่อนไขเดิม ทั้งการปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหม โดยอ้างว่าเป็นโรคร้ายแรงมาก่อน รวมถึงการถูกเปลี่ยนเงื่อนไขในกรมธรรม์ เป็นต้น
     
        ตัวอย่างของลูกค้าท่านหนึ่งที่ทำประกันกับบริษัทแห่งหนึ่งไว้ โดยได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวไว้ใน pantip สะท้อนถึงปัญหาดังกล่าวไว้ว่า “อยากเล่าบางอย่างให้ฟัง... แม่ยายผมเขาทำประกันไว้กับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง แล้วเมื่อครบกำหนดกรมธรรม์ น่าจะมาณ 10-20 ปี จำไม่ได้ แล้วได้สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่แล้ว พบว่า สามารถเวนเงินคืนได้ ประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท แต่ต้องมีการส่งกรมธรรม์ตัวจริง และใบคำร้องของบริษัท ตลอดจนแนบเอกสารส่วนตัวตามรายละเอียดของบริษัทฯ แม่ยายผมก็ได้จัดส่งไปให้ โดยผ่านสำนักงานต่างจังหวัด ต่อมาประมาณ 2 อาทิตย์ได้ติดต่อไปทางคอลเซ็นเตอร์ ปรากฏว่าใบคำร้องมีปัญหา! กรอกรายละเอียดไม่ครบ หรือเอกสารไม่สมบูรณ์ (ทั้งๆ ที่ก่อนส่งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบก่อนแล้วนะ) และได้จัดส่งกลับมาให้สำนักงานตัวแทนแล้ว”

“หลังจากนั้นแม่ยายจึงได้ไปรับและได้แก้ไขเอกสาร แล้วจัดส่งไปทางไปรษณีย์ อีกประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้สอบถามไปทางคอลเซ็นเตอร์อีกที ปรากฏว่า ใบคำร้องที่ส่งให้ใหม่ได้รับแล้ว แต่กรมธรรม์ตัวจริงทางบริษัทส่งกลับมาให้ตัวแทนแล้ว (แล้วทำไมมันไม่ส่งมาพร้อมกันครั้งแรกเลย) อ้าว...งานงอกสิครับ แล้วพอสอบถามไปที่สำนักงานตัวแทนเขาบอกว่าไม่สามารถจัดส่งให้ได้ ต้องให้เราไปรับคืนเอง...(แล้วทำไมครั้งแรกมันส่งไปได้ฟะ) .... เอาละสิ ไม่ได้คิดอะไร เลยไปรับที่สำนักงานตัวแทน แล้วจัดส่งให้ไปรษณีย์อีก...อีก 2 วัน ปรากฏว่า มันบอกส่งเอกสารคำร้องคืนมาอีกแล้ว.....ถามกันไปถามกันมาทั้งๆ ที่บอกไปทางคอลเซ็นเตอร์แล้วว่า ให้เก็บเอกสารนั้นไว้ เดี๋ยวเราจะส่งเอกสารอีกชุดไปให้ จนปัจจุบัน แม่ยายผมยังไม่ได้รับเงินคืน เรื่องนี้แม่ยายผมเองก็ผิดที่กรอกเอกสารผิดครั้งแรก แต่เรื่องเอกสารส่งกันไป ส่งกันมา ตั้งหลายรอบ...ไม่เข้าใจว่า ทางบริษัทตั้งแง่จะไม่คืนเงินตั้งแต่แรกหรือเปล่า....อันนี้แค่ตั้งข้อสังเกตุ ว่าทำไมไม่คืนเอกสารมาทั้งชุด ตั้งแต่ทีแรก.....หรือแจ้งให้เจ้าของกรมธรรม์รู้ว่ามีเอกสารตีกลับ ต้องให้แม่ยายผมตามเองตลอด....น่าคิดนะ วอนผู้บริหารดูแลด้วยนะครับ”
     
      เน้นขายดราม่า! อย่าเชื่อทุกคำพูด
      จากการสอบถามไปยัง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ได้ให้ข้อมูลว่า บริษัทประกันมักใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อด้วยข้อความที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกกับลูกค้า โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่มีความคิดเห็นคล้อยตามง่าย ด้วยคำว่า “ไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ” ที่ถือว่าเป็นการสร้างข้อความจูงใจใหม่ที่ทำลายข้อจำกัดเดิมของระบบประกันที่เคยมีเรื่องการตรวจสุขภาพก่อนการทำสัญญา จึงทำให้มีผู้สนใจหันมาทำประกันผู้สูงอายุมากขึ้น ประกอบกับการที่เมืองไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยในปี 2555 จำนวนผู้สูงอายุของประเทศไทยคิดเป็นประมาณร้อยละ 12.7 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศหรือประมาณ 8.6 ล้านคน
     
        บริษัทประกันชีวิตจึงได้หันมาให้ความสำคัญและความสนใจกับลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุในฐานะที่เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ (Potential Customer ) ส่วนลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุเองก็มองเห็นถึงความจำเป็นและมีความต้องการที่จะทำประกันชีวิตไว้เป็นหลักประกันความคุ้มครองและการออมเงิน เพื่อเก็บไว้เป็นมรดกให้แก่ลูกหลานและไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลานหากตนเองเสียชีวิต

http://upic.me/i/tu/558000009999003.jpeg
ดังนั้นในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทประกันชีวิตหลายแห่งจึงเริ่มหันมาพัฒนาแบบประกันที่เน้นกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ โดยเมื่อมองเจาะจงเฉพาะประกันชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุนั้น จะมีทั้งเฉพาะประกันชีวิตเพียงอย่างเดียวและส่วนที่ประกันสุขภาพ หากมองเฉพาะในส่วนของประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว ที่นำเอาดารามาโฆษณาในตลาดขณะนี้มี 3 รายหลักประกอบด้วย เอไอเอ เมืองไทยประกันชีวิต และอลิอันซ์ อยุธยา
     
        โดย เอไอเอ (AIA) นับเป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกที่ออกโฆษณาสำหรับผู้สูงอายุ “อาวุโส โอเค” โดยมี คุณเศรษฐา ศิรฉายา เป็นพรีเซ็นเตอร์ หลังจากนั้นก็มีบริษัทประกันชีวิตอื่นๆ ทยอยออกแบบประกันเฉพาะผู้สูงอายุมา จากนั้นค่ายเมืองไทยประกันชีวิต ออกผลิตภัณฑ์ “เมืองไทยวัยเก๋า” ดึงเอา วิทวัส สุนทรวิเนตร์ พิธีกรชื่อดังมาเป็นต้นแบบ อีกค่ายที่ตามมาคืออลิอันซ์ อยุธยา ออกผลิตภัณฑ์ “สูงวัย ใช่เลย” ได้ นพพล โกมารชุน นักแสดงรุ่นใหญ่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จากนั้นเอไอเอได้ออกผลิตภัณฑ์อีกตัวคือ “เอไอเอ 50 อัพ” มี นิรุตติ์ ศิริจรรยา ดาราอาวุโสมาเป็นต้นแบบ
     
        ทั้งนี้ แบบประกันของทั้งสามบริษัทมีความแตกต่างกันตามแต่กลยุทธ์ หากบริษัททั้งหมดก็มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เรื่องอายุขณะเอาประกัน (อายุที่ถูกคำนวณ ณ วันที่ซื้อประกัน) 50 -70 ปี ยกเว้นแบบประกัน “เมืองไทยวัยเก๋า” และ “วัยเก๋าทั่วไทย” ที่รับประกันอายุ40 - 75 ปี ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่มีการถามคำถามสุขภาพ (ยกเว้นแบบประกัน “สูงวัยใช่เลย” ของอลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิตที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพแต่มีคำถามสุขภาพ) คุ้มครองจนถึงอายุ 90 ปี จ่ายเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาที่ต้องจ่ายเบี้ย และเรื่องของความคุ้มครองจากกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 2 ปีแรก โดยไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายสินไหม 102% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระแล้ว โดยไม่ใช่การจ่ายตามทุนประกัน และเมื่อมองดูทั้งหมดแล้วทุกบริษัทก็มีการปิดบังรายละเอียดบางอย่าง หากผู้ทำประกันไม่ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจริงๆ ก็จะทำให้หลงเชื่อตามคำโฆษณาทุกประการ

        ผู้ทำประกันต้องรู้ทัน!
        เกี่ยวกับประเด็นนี้ตัวแทนจากทาง คปภ. ได้เปิดเผยว่า “ความจริงแล้ว ทาง คปภ. มีระเบียบเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนอยู่แล้ว โดยมีกรอบโฆษณาเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันชีวิต ประกันวินาศภัย โดยมีสาระสำคัญว่า ข้อความที่โฆษณาต้องไม่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ข้อความที่โฆษณาต้องมีความชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่กำกวม
      นอกจากนี้ข้อความที่โฆษณาต้องไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือการจ่ายผลประโยชน์ รวมถึงในการโฆษณาที่ระบุ “ไม่ต้องตรวจสุขภาพ” จะต้องมีการระบุให้ชัดเจนด้วยว่าต้องแถลงเกี่ยวกับสุขภาพในใบคำขอเอาประกันภัย/ชีวิตด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงเกี่ยวกับสุขภาพ ต้องระบุเพิ่มด้วยว่า การแถลงสุขภาพเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัย/ชีวิต และต้องให้มีการระบุคำเตือน โดยใช้ข้อความว่า “ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง” หรือข้อความอื่นที่มีความหมายทำนองเดียวกัน
        อย่างไรก็ตาม เมื่อมองลึกลงไปอย่างรู้ทันข้อกฎหมาย ตามมาตรา 865 และมาตรา 893 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้ระบุเรื่องหลักเกณฑ์ในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นจริงในเวลาทำสัญญาประกันไว้ว่า
      “ผู้ทำสัญญาหรือผู้เอาประกันชีวิต รวมถึงผู้ที่ใช้ความตายของตนเป็นเงื่อนไขการใช้เงิน จะต้องแจ้งข้อเท็จจริงที่มีผลจูงใจให้บริษัทผู้รับประกันชีวิตนั้นเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้นหรืออาจบอกปัดไม่ทำสัญญา เนื่องจากในกฎหมายระบุให้ผู้เอาประกันชีวิตจะต้องใช้ความสุจริตอย่างยิ่ง โดยมีหน้าที่จะต้องแจ้งข้อเท็จจริงให้บริษัทผู้รับประกันภัยได้ทราบ”
      “กรณีผู้ที่ใช้ความตายของเขาเป็นเงื่อนไข การใช้เงินก็ต้องมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อมองรายละเอียด ดังนั้นนอกจากผู้เอาประกัน ผู้ที่ใช้ความตายของบุคคลนั้นเป็นเงื่อนไขการใช้เงินก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่จะต้องบอกข้อเท็จจริงว่าตนมีโรคประจำตัวอย่างไรบ้าง หรือบอกปัจจัยอื่นที่มีผลทำให้ผู้รับประกันเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้นหรืออาจบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาถ้าได้รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าว เพราะกฎหมายระบุให้ผู้เอาประกันชีวิตจะต้องใช้ความสุจริตอย่างยิ่งในการที่จะต้องบอกข้อเท็จจริงดังกล่าวให้กับบริษัทประกันชีวิต”
      ท้ายสุด หากผู้ที่มีหน้าที่ไม่ทำหน้าที่ดังกล่าว บริษัทผู้รับประกันมีสิทธิที่จะลดจำนวนเงินที่ผู้รับประกันจะต้องจ่ายหรือบอกล้างสัญญา และไม่ยอมใช้เงินประกันตามสัญญาได้ แต่ถ้าเป็นผู้รับประโยชน์ในสัญญาประกันชีวิตที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันชีวิตก็ไม่มีหน้าที่จะต้องแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าว แม้รู้แต่ไม่บอกก็ไม่มีผลใดๆ ต่อสัญญาประกันชีวิต
      ดังนั้น แม้ไม่ถามเรื่องสุขภาพก็ต้องตอบเรื่องสุขภาพอยู่นั่นเอง และบริษัทประกันก็อาจอ้างเหตุที่ปกปิดไม่แจ้งข้อเท็จจริงไม่จ่ายเงินได้เช่นเคย ดังนั้นเวลาทำสัญญาประกันผู้บริโภคจะต้องใช้ความระมัดระวังแจ้งข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาที่เอาความสะดวกมานำเสนอและหาประโยชน์กับความไม่รู้ของผู้บริโภค
      “ไม่ต้องตรวจสุขภาพ..ทำเถอะจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน” คราวหน้าหากคุณได้ยินประโยคนี้อีก คุณอาจจะบอกผู้ใหญ่ใกล้ตัวด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป

http://upic.me/i/0k/1440487685-1187083598-o.jpg
http://upic.me/i/bp/capteeeure.png
http://upic.me/i/fh/urrrr.png

ความคิดเห็นที่ 23
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนัง Saw ภาค 6

ที่มีบริษัทประกัน ชอบโกงลูกค้าด้วยการไม่จ่ายอ้างเรื่องโรคประจำตัวก่อนทำประกัน

บริษัทนี้ถึงกับมีทีมขุดคุ้ยประวัติลูกค้า แต่อ้างนโยบาย เอาเปรียบเวลามีลูกค้ามาเคลม

หนังเปรียบบริษัทประกันว่าเป็นเห็นแก่ตัว เป็นการกระทำที่เหมือนตัดสินชีวิตประหารชีวิตคนป่วย คนที่ต้องการความช่วยเหลือ อุตส่าห์ไว้ใจประกัน

จอห์นรู้จักผู้บริหารบริษัทนี้ จอห์นทำประกันไว้ พอจอห์นเป็นมะเร็ง ก็หาทางรักษาจนเจอหมอที่ต่างประเทศกับการรักษาแบบใหม่

จอห์นไปเคลมประกัน บริษัทไม่ยอม อ้างนโยบายนู่นนี่หลบเลี่ยง กล่อมต่างๆ นาๆ ว่าจอห์นอายุมากแล้ว รักษาหายก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเหมือนเดิม อาจเป็นซ้ำอีก ต้องใช้เงินมาก ต้องใช้เงินตัวเอง จอห์นก็พูดว่า

อย่ามาพูดเรื่องเงินกับผม ผมมีเงิน ปัญหาของคุณมันเป็นเรื่องหลักการ

หลักการประกันที่ว่า คนเราจ่ายตอนสบายดีหาเงินได้ ตอนป่วยทำงานไม่ได้จึงจะได้ไม่ต้องจ่าย

กลายเป็นว่าจ่ายเงินเสียเปล่า ไม่ช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพียงเพราะนโยบายเห็นแก่ตัว

บริษัทประกันพวกนี้เห็นค่าเงินมาก่อนคุณค่าของชีวิต ตราบใดที่ยังทำกำไรได้ ก็ไม่สนว่าใครจะเป็นจะตาย ไม่คิดช่วยคนที่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่คิดถึงครอบครัวของคนที่ต้องตาย

ลงท้ายก็โดนจับไปเล่นเกมจิ๊กซอว์ ตายกันค่อนบริษัท

http://upic.me/i/nw/dm555.png


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096586
http://pantip.com/topic/34100001


ID=2586,MSG=3052
Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

http://upic.me/i/5c/ru666.png

ความคิดเห็นที่ 38-6
ถ้าเอาตามใจความของความเห็น 38 เราเข้าใจว่า
ทางบ.ประกัน จะยึดสาเหตุการเสียชีวิตหลักก่อนใช่มั้ยคะ?
เช่น "ทำประกันอุบัติเหตุ" แล้ววันนึงเส้นเลือดในสมองแตก จึงล้มหัวฟาดพื้น และเสียชีวิต
เพราะงั้นทางการแพทย์จึงถือว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือ เส้นเลือดในสมองแตก จึงไม่ใช่อุบัติเหตุ ใช่มั้ยคะ??

ส่วนตามกระทู้ บอกว่า
"เกิดสะดุดขาตัวเองล้ม และเสียชีวิต แพทย์วินิจฉัยว่าการล้มกระแทกทำให้กระดูกคอหัก กระทบกับภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบของผู้เสียชีวิต"
ถ้าจะมาแปลในความหมายของความเห็นที่ 38 ก็จะกลายเป็น
สาเหตุการตาย เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ แล้วก็ล้มฟาดพื้น
มันก็เลยกลายเป็นว่า ตายเพราะอาการโรค ไม่ใช่อุบัติเหตุใช่มั้ยคะ?

นี่พยายามคิดเข้าข้างพวกประกันมากที่สุดละนิ
แต่ถ้าเป็นเรา เราจะพยามสู้ไปว่า
หัวใจตีบ ถ้าไม่ล้มไปจนหอหัก กุก็ไม่ตายหรอกโว้ย หมอรักษาทัน
แต่นี่มันเกิดอุบัติเหตุร่วมด้วยนะ น่าจะได้รึป่าว

ความคิดเห็นที่ 38-7
ขอตอบของคห.38-6 ก่อนนะครับ
จากที่ถามในย่อหน้าแรก คำตอบคือ ประกันจะมองว่า สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุนั้น(เช่น ล้ม) ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุจริงๆ แต่เกิดจากปัญหาสุขภาพของผู้เอาประกันทำให้เกิดการล้ม - ซึ่งในที่นี้ไม่นับเป็นอุบัติเหตุครับ
ซึ่งน่าจะอธิบายครอบคลุมไปถึงคำถามในย่อหน้าสุดท้ายด้วยนะครับ

ส่วนย่อหน้าที่ 2 โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าเคสนี้เป็นอุบัติเหตุ แต่คำวินิจฉัยแพทย์มีความคลุมเครือเพียงเพราะไอ้ประโยคหลังนั่นแหละครับ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเคลมของบริษัทประกันอาจจะตีความง่ายๆว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุและไม่จ่ายเคลม ผมถึงแนะนำว่าประเด็นนี้ ควรมีตัวแทนเข้าไปช่วยจัดการ clarify เรื่องนี้ให้ชัดเจนครับ

ความคิดเห็นที่ 38-5
ถาม.
1. ล้มหัวฟาดพื้นไม่ตาย แต่หลังจากรักษาติดเชื้อตาย อุบัติเหตุไหม
2.หัวใจวาย แต่ยังไม่ตาย ล้มหัวฟาดพื้นตายอุบัติเหตุไหม
3.เป็นลมตกน้ำ จมน้ำตายไม่มีบาดแผล อุบัติเหตุไหม
ผลสืบเนื่องจากอุบัติเหตุ ถ้าไม่มี อุบัติเหตุผลก็ไม่เกิด ความเห็นผมอุบัติเหตุ ถ้าจะไม่รับก็เขียนเพิ่มไปเลยโฆษณาด้วย

อะไรเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตาย. ถ้าสาเหตุจากปัจจัยภายนอกไม่ใช้สาเหตุที่ตายจากสภาพร่างกาย


ประกันโทรมา ผมไม่คุย แสดงว่าคิดถูกแล้ว

ขอตอบคห.38-5
1. ข้อนี้ไม่แน่ใจจิงๆครับ แต่คิดว่าสามารถเบิกค่ารักษาได้ แต่น่าจะไม่ชดเชยในการเสียชีวิต เพราะเป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ ***ไม่แน่ใจจริงๆครับ***
2. ไม่จ่ายครับ เหตุผล เพราะเหตุนั้นเกิดจากโรคประจำตัวทำให้เกิดเหตุ
3. ไม่จ่ายครับ เหตุผล เหมือนข้อ2 แต่ปกติการจมน้ำตาย ประกันอุบัติเหตุจะคุ้มครองและชดเชยนะครับ
(สำหรับข้อ 3 เอาจริงๆผมว่าสุดท้ายแล้วน่าจะจ่าย เพราะหากมีศพจมน้ำเสียชีวิตจริงๆ มันจะมีอะไรมายืนยันว่าเป็นลมก่อนจมน้ำอะครับ ยกเว้นว่าเทคนิคการแพทย์สามารถระบุได้ชัดเจนแบบนั้นจิงๆ)

ไม่มีเหตุ ผลก็ไม่เกิด - logic นี้ถูกต้องครับ เพราะประกันอุบัติเหตุมองว่า ถ้าไม่มีโรคประจำตัว อุบัติเหตุนั้นก็ไม่เกิด

อะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้ตาย - ถ้าผู้บริโภคมองว่า เส้นเลือดสมองแตกแล้วหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ที่เสียชีวิตเพราะหัวฟาดพื้น แต่มุมของประกันอุบัติเหตุ จะมองว่า ถ้าเส้นเลือดสมองไม่แตก หัวก็ไม่ฟาดพื้น ทั้งนี้ เส้นเลือดสมองแตกไม่ใช่ประกันอุบัติเหตุ

ป.ล. ที่ว่ากันมาทั้งหมดนี่คือประกันอุบัติเหตุ แต่ถ้าเป็นประกันชีวิตปกติ จ่ายทุกกรณี ยกเว้นการฆ่าตัวตายภายใน 1 ปีแรกของการสมัครประกัน และผู้รับประโยชน์เป็นคนฆ่าครับ

ทั้งหมดนี้ผมตอบจากความรู้ส่วนตัวในฐานะตัวแทน ไม่ใช่ความรู้ในฐานะเจ้าหน้าที่เคลมสินไหม เพราะฉะนั้นอาจมีอะไรที่ไม่ถูกต้องเป๊ะ 100% นะครับ

ส่วนที่บอกว่าประกันโทรมาคุยแล้วไม่คุยน่าจะคิดถูกแล้ว ผมว่าแล้วแต่ครับ เพราะถ้าเจอคนขายประกันแบบเป็นแต่ท่องนกแก้วนกขุนทอง ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ตอบเลี่ยงไม่ตรงประเด็น พยามทำให้เรางงกะศัพท์เฉพาะ ฯลฯ ไม่คุยก็คิดถูกแล้วครับ
แต่ถ้าเป็นตัวแทนที่อธิบายได้ถูกต้อง หมายถึงอธิบาย function การทำงานของประกันได้อย่างถูกต้องครบถ้วนไม่อวยเกินจริง ผมว่าควรรับฟังไว้ และตัดสินด้วยดุลยพินิจของตนเองครับ


ID=2586,MSG=3053
Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

ความคิดเห็นที่ 54
ขออนุญาตให้ความข้อมูลครับ

ประกันประเภทที่ "ไม่ต้องตรวจสุขภาพ" มีครับ และเป็น 1 ในประเภทของประกันที่ทาง คปภ. อนุญาตให้เสนอขายได้
ประกันประเภทนี้เรียกว่า GIO (Guaranteed Insured Option)
สำหรับประกันประเภท GIO นั้น บริษัทประกันจะไม่ใช้ประวัติสุขภาพของผู้เอาประกันมาพิจารณาในการรับประกัน
และจ่ายสินไหมตามที่ระบุในกรมธรรม์ โดยไม่สนว่าผู้เอาประกันจะมีสุขภาพอย่างไร
แต่เงื่อนไขการจ่ายสินไหม จะมีระบุระยะเวลาว่าช่วงไหน ลักษณะการจ่ายสินไหมเป็นอย่างไร
เช่น หากเสียชีวิตภายในกี่ปี บริษัทจะคืนเบี้ย+กำไรเล็กน้อย แต่หากมีชีวิตอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด บริษัทจะจ่ายสินไหมตามจำนวนเงินเอาประกัน

ประกันประเภทนี้ ความคุ้มครองค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับประกันอื่นๆที่จำนวนเบี้ยเท่ากันครับ
เรียกได้ว่า เมื่อคำนวณทางสถิติและในแง่การทำธุรกิจแล้ว บริษัทสามารถมีกำไรได้
ลูกค้าที่จะได้ประโยชน์จากประกันนี้ คือคนที่สุขภาพไม่ดี แต่อยากมีทุนประกันติดตัวบ้าง ซึ่งเป็นทุนเล็กน้อยจริงๆ
กลุ่มลูกค้าที่จะได้ประโยชน์จริงๆมีไม่เยอะครับ

ดังนั้น เมื่อทำกรมธรรม์ประเภทนี้ ต้องดูรายละเอียดในกรมธรรม์ครับ
หากมีการระบุเรื่อง การไม่จ่ายสินไหม เนื่องจากสภาพที่เป็นมาก่อนทำประกัน
ให้ยกเลิกกรมธรรม์เลยครับ เพราะหากเป็นเช่นนั้น กรมธรรม์ฉบับนี้จะเป็นการทำประกันที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

และควรเรียกร้องกับ คปภ. ให้ทบทวนเรื่องการอนุญาตให้บริษัทประกันขายแบบประกันลักษณะนี้
เพราะแทบไม่เกิดประโยชน์ใดๆกับผู้เอาประกัน

*** แต่ประกันที่ท่านซื้อกับตัวแทนทั่วไป ที่ไม่ใช่ประเภท GIO (ประเภท GIO มีน้อยมาก ส่วนใหญ่ขายผ่านบริษัทโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทน)
กรณีนี้ต้องแถลงสุขภาพตามจริงทั้งหมด และถ้าท่านมีประวัติสุขภาพ ย่อมต้องมีการตรวจสุขภาพครับ
ซึ่งจะมีข้อความเรื่องการไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนทำประกัน ระบุไว้ในกรมธรรม์อยู่แล้ว
หากท่านมีประวัติสุขภาพ แล้วตัวแทนที่ขายท่าน บอกว่าไม่ต้องแถลงสุขภาพ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จะซิกแซกอย่างไร
ท่านเตรียมตัวประสบปัญหาในการเคลมสินไหมได้เลยครับ ***

สำหรับผู้เอาประกันที่มีปัญหากับการเคลมสินไหม จากกรมธรรม์ทุกประเภท
เพื่อความสะดวก แนะนำให้หาตัวแทนที่ทำเป็นอาชีพประจำ ลองให้ตัวแทนช่วยดำเนินการแก้ปัญหาให้ครับ
ส่งคนที่คุยภาษาเดียวกันไปคุยให้ครับ
เพราะการที่บริษัทไม่จ่ายสินไหมตามเงื่อนไข ต้องทราบเหตุผลว่าเกิดจากอะไร เพื่อให้แก้ได้ถูกจุด
เหตุผลเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเป็นข้อมูลการรักษาที่ รพ. ส่งให้บริษัทประกัน หรือสาเหตุอื่นๆ
แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนชัดเจน ตรงตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่เหตุผลที่บริษัทไม่จ่ายสินไหมฟังไม่ขึ้น
บอกได้เลยว่าบริษัทประกันโดน คปภ. บังคับให้จ่ายสินไหมได้แน่นอนครับ

แต่ คปภ. ไม่ใช่หน่วยงานที่จะคุ้มครองผู้เอาประกัน หรือคุ้มครองผู้บริโภคครับ
คปภ. จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะ คปภ. กำกับดูแลธุรกิจประกันครับ
ไม่ใช่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค
ดังนั้น กรณีพิพาทใดๆ หากต้องการความถูกต้อง ท่านต้องแน่ใจก่อนว่าหลักฐาน ข้อมูลต่างๆของตนเองนั้นถูกต้อง
ไม่ใช่อารมณ์ว่า จะฟ้องให้บริษัทต้องจ่ายท่าเดียว

ในทุกๆเดือน บริษัทประกันใหญ่ๆ จ่ายสินไหมเป็นหลักหลายร้อยล้านบาทต่อเดือนครับ
ในทุกๆเดือน มีเคสการเรียกร้องสินไหมเป็นหลักหมื่นๆราย
ข้อมูลตรงนี้ประชาชนทั่วไปอาจไม่ทราบ
เพราะคนที่ได้รับสินไหมปกติ เขาย่อมไม่มาชี้แจงเรียกร้องอะไร แต่คนที่เกิดปัญหาจะมีการสอบถาม ขอคำแนะนำ ขอความช่วยเหลือ

ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหา ให้พิจารณาก่อนว่า มันต้องมีที่มาที่ไปครับ
จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดและใช้วิธีที่มีประสิทธิผลครับ


ID=2586,MSG=3054
Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

Re: ประกันผู้สูงอายุ สมัครง่าย อาจตายฟรี ระวัง!

ความคิดเห็นที่ 54-1
ที่เขียนมายาวๆนี้ ให้ตัวแทนชี้แจงให้ลูกค้าฟังด้วยนะครับ โดยมากไม่มีใครชี้แจง ครับ ส่วนตัวต้องมาอ่านในกรรมธรรฑ์ ถึงเจอแล้วก็ถึงกับอึ้ง บางเจ้า อ้างเวลาถึงสองปี หากตรวจพบว่ามีปัญหาสุขภาพแล้วก็จะขอยกเลิกสัญญา ในที่นี้หมายความว่าภายในสองปีห้ามเกิดเหตุใช่ไหมครับ บริษัทพร้อมยกเลิกสัญญาและคืนเบี้ย+ดอกอีกเล็กน้อย

ความคิดเห็นที่ 54-2
ไม่ใช่การยกเลิกสัญญา แต่เป็นเงื่อนไขการจ่ายสินไหมครับ
ว่ากรณีเสียชีวิตภายใน 2 ปี จะจ่ายสินไหมเป็นจำนวนเงินค่าเบี้ยประกัน+ส่วนเกินเป็น % ของเบี้ยประกัน
ก่อนซื้อประกันควรทราบเงื่อนไขครับ ถ้าไม่พอใจในเงื่อนไข ก็ไม่ควรซื้อ
หรือซื้อไปแล้ว ก็พยายามทำความเข้าใจจากกรมธรรม์ ถ้าไม่เข้าใจ หรือไม่ตรงตามที่ต้องการ ก็ยกเลิกได้ในระยะเวลา free look ครับ

กรมธรรม์สำหรับผู้สูงวัย ที่เป็นลักษณะไม่ตรวจสุขภาพประเภทนี้ ไม่ขายผ่านตัวแทนประกัน แต่ให้ลูกค้าโทรไปซื้อกับบริษัทโดยตรงครับ

ส่วนประกันที่ขายผ่านตัวแทนทั่วไป ตัวแทนมีหน้าที่ชี้แจงทุกอย่างเกี่ยวกับประกันที่เสนอขายครับ
และมีหน้าที่สร้างความเข้าใจในรายละเอียดของกรมธรรม์ให้ผู้เอาประกันเข้าใจอย่างถูกต้องด้วยครับ

ส่วนผู้เอาประกัน มีหน้าที่อ่านกรมธรรม์ เพื่อประกอบการอธิบายจากตัวแทน
และผู้เอาประกันมีสิทธิใช้กฏเกณฑ์ free look ในการยกเลิกกรมธรรม์ หากในสัญญาไม่เป็นไปตามที่ต้องการครับ

ที่จริงแล้ว สัญญาทุกประเภท ในฐานะที่เป็นคนเซ็นสัญญา ท่านควรอ่านและทำความเข้าใจทุกหน้าเพื่อประโยชน์สูงสุดของตนเองนะครับ http://upic.me/i/vg/ff777.png

เสพต่อที่นี่เลย >:(
http://pantip.com/topic/34100001


ID=2586,MSG=3055


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Friday เวลา 04:42:54pm (ลูกค้าเราติดต่อทางไลน์พิเศษที่ให้ไว้ตอนซื้อประกัน😍)
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com