กลุ่มอลิอันซ์โกยกำไรรวย โชว์ผลงานเบี้ยประกันทะลัก

กลุ่มอลิอันซ์โกยกำไรรวย โชว์ผลงานเบี้ยประกันทะลัก

กลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2555 มีรายได้ 1.064 แสนล้านยูโร (ประมาณ 4.315 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จาก 1.036 แสนล้านยูโร (ประมาณ 4.201 ล้านล้านบาท) ในปีก่อนหน้า ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 มาอยู่ที่ 9.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.85 แสนล้านบาท) จาก 7.9 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.20 แสนล้านบาท) ในปี 2554 ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ว่าจะต้องได้เกิน 9 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.65 แสนล้านบาท) ซึ่งตอนนั้นบริษัทฯ คาดว่าจะได้กำไรจากการดำเนินงานประมาณ 8.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.32 แสนล้านบาท) บวกลบ 500 ล้านยูโร (ประมาณ 20.27 พันล้านบาท)

ทุกหน่วยธุรกิจทำผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักในปี 2555 โดยธุรกิจประกันวินาศภัยได้รับประโยชน์จากผลการรับประกันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการสูญเสียจากเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ลดลง ส่วนธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพยังคงยืนหยัดฟันฝ่ากับภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง และมีความท้าทายจากภาวะดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมอีกปี

กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในปี 2555 แตะ 5.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.1 แสนล้านบาท) จาก 2.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.01 แสนล้านบาท) ในปี 2554 เป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 103.1 ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2554 ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะและการลงทุนในประเทศกรีซ โดยเฉพาะทางด้านการเงิน

สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.553 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.172 ล้านล้านบาท) จาก 44.915 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.821 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นสุดปี 2555 อัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 197 เพิ่มขึ้น 18 จุด จากร้อยละ 179 ในปีก่อนหน้า คณะกรรมการบริหารจะเสนอคณะกรรมการกำกับดูแลของบริษัท อลิอันซ์ เอสอี จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หุ้นละ 4.50 ยูโร (182 บาท)

“ธุรกิจของเราพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากในสามไตรมาสแรก หลังจากที่เราปรับเพิ่มประมาณการแนวโน้มผลกำไรจากการดำเนินงาน แม้จะได้รับผลกระทบจากพายุแซนดี เราก็ยังทำได้ดีเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้” นายไมเคิล ดิกแมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอลิอันซ์ เอสอี กล่าว “ผลประกอบการของเราแสดงให้เห็นว่า รูปแบบธุรกิจของเราสามารถรับมือกับความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจหลากหลาย อันเกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเงินได้ นอกจากนี้ ความยั่งยืนและความต่อเนื่องของธุรกิจของเรา ยังสะท้อนออกมาในนโยบายการจ่ายเงินปันผล ซึ่งทำให้เราเสนอที่จะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 4.5 ยูโร (182 บาท) เป็นอัตราการจ่ายออกไปร้อยละ 40 ได้อีกครั้ง”

ธุรกิจประกันวินาศภัย เติบโตทั้งเบี้ยประกันและผลกำไร เบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในปี 2555 มาอยู่ที่ 46.9 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.902 ล้านล้านบาท) จาก 44.8 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.816 ล้านล้านบาท) ในปี 2554 และหลังจากการปรับค่าสกุลเงินต่างประเทศและผลจากการจัดทำงบการเงินรวมรายได้ภายในเติบโตร้อยละ 2.5 อันเป็นผลมาจากผลกระทบด้านราคาและปริมาณซึ่งมีเท่าๆ กัน โดยเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศออสเตรเลีย หน่วยธุรกิจ global unit ของ Allianz Global Corporate & Specialty และในภูมิภาคละตินอเมริกา ขณะที่เยอรมันก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของธุรกิจประกันวินาศภัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ในปี 2555 มาอยู่ที่ 4.7 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท) จาก 4.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท) ในปี 2554 เหตุผลหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 701 ล้านยูโร (ประมาณ 28.42 พันล้านบาท) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากสัดส่วนของค่าสินไหมทดแทนต่อค่าเบี้ยประกันภัยที่พัฒนาไปในทิศทางเชิงบวก

ในเกือบทุกตลาด มีอัตราค่าใช้จ่ายรวมต่อเบี้ยประกันอยู่ในระดับที่ดี คือต่ำกว่าร้อยละ 100 ในปี 2555 โดยอัตรารวมของทั้งกลุ่มอลิอันซ์ปรับตัวดีขึ้น 1.5 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 96.3 จากร้อยละ 97.8 ในปี 2554

แม้จะได้รับผลกระทบจากพายุแซนดี แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนความเสียหายในปี 2555 เพียง 1.7 จุดเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 4.4 จุด อัตราส่วนความเสียหายอุบัติเหตุ ในปี 2555 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 71.2 จาก 74.1 ในปีก่อนหน้า อัตราส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ร้อยละ 28 ซึ่งยังคงใกล้เคียงกับของปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 27.9

ธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพยังแข็งแกร่ง ในสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบาก ธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพมีการเติบโตอย่างมั่นคง สามารถสร้างรายได้จากค่าเบี้ยประกันได้ถึง 52.3 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.121 ล้านล้านบาท) ในปี 2555 ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ทำได้ 52.9 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.145 ล้านล้านบาท) ตลาดยังคงมีความยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมทั้งระบบในปี 2555 โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เน้นการลงทุน

ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 ในปี 2555 มาอยู่ที่ 3 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.21 แสนล้านบาท) จาก 2.4 พันล้านยูโร (ประมาณ 97.3 พันล้านบาท) อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลการลงทุนในการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากกำไรที่รับรู้ได้ที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ดอกเบี้ยและรายได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สืบเนื่องจากการเติบโตในฐานสินทรัพย์ที่สามารถชดเชยผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ฐานสินทรัพย์สำหรับการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.759 แสนล้านยูโร (ประมาณ 19.3 ล้านล้านบาท) จาก 4.131 แสนล้านยูโร (ประมาณ 16.75 ล้านล้านบาท) ในปี 2554

ผลกำไรจากธุรกิจใหม่อยู่ที่ร้อยละ 1.8 ในปี 2555 เมื่อเทียบกับร้อยละ 2.3 ในปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นสภาวะที่ตลาดมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ส่งผลให้มูลค่าของธุรกิจใหม่อยู่ที่ 790 ล้านยูโร (ประมาณ 32 พันล้านบาท) จาก 940 ล้านยูโร (ประมาณ 38.1 พันล้านบาท) ในปี 2554

“ผลประกอบการในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเติบโตเกินความคาดหวังจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเรามีความพึงพอใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคำนึงว่า ตลาดอยู่ในสภาวะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ การเติบโตของเศรษฐกิจเป็นศูนย์ รวมถึงผลกระทบจากนโยบายการกดดันทางการเงิน” นายดีเทอร์ เวมเมอร์ กล่าว “เราสามารถจ่ายเงินค่าสินไหมมากกว่า 20 พันล้านยูโร (ประมาณ 8.11 แสนล้านบาท) ให้กับลูกค้าของเราในปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขผลประกอบการของเราไม่เพียงแต่ตอกย้ำถึงคุณค่าที่มีให้กับลูกค้า และผู้ถือหุ้นของเราในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความยั่งยืนของรูปแบบการดำเนินธุรกิจของเราอีกด้วย”

ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ของอลิอันซ์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดในปี 2555 รายได้สุทธิจากค่าธรรมเนียมและค่านายหน้าเติบโตร้อยละ 23.1 ขึ้นมาอยู่ที่ 6.7 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.71 แสนล้านบาท) จาก 5.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.23 แสนล้านบาท) ในปี 2554 การเติบโตภายในเพิ่มขึ้นร้อยละ 15

ผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6 มาอยู่ที่ 3 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.21 แสนล้านบาท) จาก 2.3 พันล้านยูโร (ประมาณ 93.27 พันล้านบาท) ในปี 2554 การเติบโตภายในอยู่ที่ร้อยละ 24.9 อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในปี 2555 ยังคงพัฒนาต่อเนื่องโดยลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 55.6 จากร้อยละ 59 ในปีก่อนหน้า ลดลงอย่างมากจากประมาณการที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 65 ในปีที่ผ่านมา

แนวโน้มธุรกิจในปี 2556 ดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพในยูโรโซน และนักสังเกตการณ์บางคนคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ และยังมีความไม่แน่นอนอีกหลายอย่าง เช่น ระดับหนี้สาธารณะ และเศรษฐกิจในตลาดประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ไม่มีสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง

“ถึงกระนั้นก็ตาม ผมยังมั่นใจว่าในปี 2556 นี้ อลิอันซ์จะยังคงเดินหน้าสร้างผลกำไรและสร้างความอบอุ่นใจให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นของเราต่อไป และถ้ามองโลกในแง่ดีบนข้อสันนิษฐานที่ว่า ความปั่นป่วนอันเกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและตลาดทุน จะไม่เกินระดับที่เราคาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้กำไรจากการดำเนินงานของเราสามารถคาดการณ์เอาไว้ที่ 9.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.73 แสนล้านบาท) บวกลบ 500 ล้านยูโร (ประมาณ 20.27 พันล้านบาท) ตัวเลขนี้สอดคล้องกับผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2555 ซึ่งได้ปรับจากการปรับโครงสร้างธุรกิจไปเมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา” นายดิกแมนน์ กล่าว


ID=1836,MSG=2023


⭐️ เราให้คำแนะนำปรึกษา รักษาผลประโยชน์ให้ลูกค้า ของเรา
⭐️ เราอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา ช่วยเหลือ ดูแลบริการ
⭐️ เรารองรับช่องทางติดต่อมากมาย สะดวก เข้าถึงง่าย
⭐️ เราดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า20 ปี คุณจึงมั่นใจได้
⭐️ คุณมีสามารถรับบริการทั้งจากบริษัทประกันเจ้าของสินค้า และ เรา (ตัวกลาง)

ไทย มีราว 80 บริษัทประกันภัย สินค้าที่แตกต่าง ทั้ง เงื่อนไข ราคา เคลม ความมั่นคง นโยบาย ฯลฯ
ขายผ่านตัวกลาง กว่า 500,000 ราย : ตัวแทน นายหน้า ธนาคาร บิ๊กซี โลตัส ค่ายรถยนต์ เฮ้าส์แบรนด์ ของประกันภัย หรือ ซื้อตรงกับบริษัทเจ้าของสินค้า
⭐️ ตัวอย่าง การบริการ กดดูที่ลิงค์นี้

"สิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกในการซื้อประกัน คือ ตัวกลางประกันภัย ซึ่งจะเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือ ดูแลเรา ตลอดอายุกรมธรรม์"

โปรดรอ

display:inline-block; position:relative;
โทร.(จ-ศ : 9-16) เว้นวันหยุดฯ , ลูกค้าเรา บริการ 24/7/365 , Friday เวลา 07:50:09am เปิดทำการ 9.00
Copyright © 2018 Cymiz.com., All rights reserved.นโยบาย,ข้อตกลงcymiz.com